ยังอยู่ในช่วงผันผวนและมีโอกาสเคลื่อนไหว 1570-1610 อีกระยะ ก่อนฟื้นตัวขึ้น

ยังอยู่ในช่วงผันผวนและมีโอกาสเคลื่อนไหว 1570-1610 อีกระยะ ก่อนฟื้นตัวขึ้น

แนวโน้มช่วงสั้นยังมีโอกาสผันผวน

หลังกรอบการลงนามการค้าสหรัฐฯ-จีนเสี่ยงเลื่อน เนื่องจากการประชุมเอเปกที่ชิลียกเลิก ขณะที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่จีนไม่มั่นใจในการเจรจาการค้า อย่างไรก็ตามท่าทีของฝั่งสหรัฐฯ ยังคงเป็นบวก และมีการยืนยันการลงนามทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก ในกรอบเวลาเดิม ขณะที่สถานที่เจรจาจะมีการประกาศอีกครั้ง ซึ่งเมื่อประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ทำให้เรายังคงมุมมองบวกในระยะกลาง แม้ช่วงสั้นอาจเผชิญความผันผวนในทางลง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลดลงเป็นวันที่ 2 หลังทดสอบ 1.85% วันก่อน ล่าสุดเหลือ1.70% ทั้งนี้การปรับลดลงดังกล่าวอาจตีความได้ว่าตลาดไม่เห็นด้วยกับการที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ย และประเมินว่าเฟดอาจต้องลดดอกเบี้ยต่อ หรือส่งสัญญาณถึงความกังวลเนื่องจากการเจรจาการค้า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นบวกกับการฟื้นตัวของหุ้นไฟฟ้าและกลุ่มหุ้นปลอดภัย อย่างไรก็ตามคาดหุ้นไฟฟ้าฟื้นจำกัดจาก 1)  โอกาสถูกปรับลดกำไรปี 2562 2) เข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุงไตรมาส 4 ดังนั้นการเลือกซื้อเรายังเน้นหุ้นสาธารณูปโภคที่ซื้อขายด้วย valuation ที่ไม่แพงเกินไป อาทิ WHAUP, NNCL, SSP, GUNKUL

คาดกนง.มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมพ.ย. เพื่อลดแรงกดดันเงินบาทแข็งค่าและเป็นการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับธนาคารกลางส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นจิตวิทยาบวกต่อการเก็งกำไรกลุ่มไฟแนนซ์ อาทิ KTC, AEONTS, MTC, SAWAD, AMANAH โดยเฉพาะ SAWAD ที่มีแนวโน้มจะได้รับการเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI ที่จะมีการทบทวนในวันที่ 6 พ.ย.นี้

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, BGRIM, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้คาด downside ในหุ้นใหญ่หลายตัวเริ่มจำกัด แต่ ไม่ไล่ราคา โดยตลาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1570-1610 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ ADVANC, SAWAD /เก็งกำไร  EPG* (เป้า 10, ตัดขาดทุน 7.10), KTC* (เป้า 44, ตัดขาดทุน 40.50)

แนวรับ 1590 จุด / แนวต้าน : 1610-1617 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

PMI ภาคการผลิตจีนต่ำกว่าคาด และยังต่ำกว่า 50 – สนง.สถิติจีน รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. อยู่ที่ 49.3 ลดลงจาก 49.8 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 49.8

BOJ คงระดับความผ่อนคลายทางการเงินตามเดิม ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงดอกเบี้ยระยะยาวไว้ที่ระดับใกล้ 0 / คงมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์จำนวนมากเช่นเดียวกัน พร้อมปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อ

ศก.ไทยเดือนก.ย.ชะลอตัว ตามยอดส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 – ธปท.เปิดเผย ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย.ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว จากการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน

PLANBเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน MACO สัดส่วน 19.96% ซึ่งทำให้เกิดการผนึกโครงข่ายสื่อโฆษณานอกบ้านระหว่าง PLANB-MACO-VGI

TK เริ่มให้บริการไมโครไฟแนนซ์กับลูกค้าเมียนมา หลังได้รับอนุญาตให้เปิด 3 สาขา ในหงสาวดี

ประเด็นติดตาม: 1 พ.ย.ตัวเลขเงินเฟ้อไทย / ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ/ 6 พ.ย.ประชุม กนง.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)