'ดีเอสไอ' หักอัยการเชือด 'อนันต์' มั่นใจหลักฐานมัดเจ้าสัวใหญ่พันฟอกเงิน

'ดีเอสไอ' หักอัยการเชือด 'อนันต์' มั่นใจหลักฐานมัดเจ้าสัวใหญ่พันฟอกเงิน

ดีเอสไอเร่งส่งความเห็นแย้ง อัยการไม่ฟ้อง “อนันต์ อัศวโภคิน” ประเด็น "ข้อกฎหมาย-เจตนา" ใช้ชื่อถือครองที่ดินแทน “ธัมมชโย” หักค่าขายส่วนหนึ่งเข้ากระเป๋า พัวพันการฟอกเงินผ่าน "เอ็ม-โฮม" ยก 5 ข้อโต้อัยการ ชี้ “ศุภชัย” ตั้งนอมินี

กรณีที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นไม่ฟ้อง นายอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ผู้ต้องหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนในคดีสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินที่ได้มาจากการยักยอกฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ซื้อที่ดิน ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื้อที่รวม 312 ไร่ 1 งาน 17.6 ตารางวา และหุ้นของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด โดยวิธีการสั่งจ่ายเช็คจำนวน 11 ฉบับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 321,400,000 บาท

วานนี้ (31 ต.ค.) ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสำนวนว่า ประเด็นความเห็นมีข้อแตกต่างกันอย่างไรก่อนเสนอให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้พิจารณาอีกครั้ง หากไม่มีความเห็นแย้งคดีก็จะยุติลงในชั้นอัยการที่สั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าอธิบดีดีเอสไอมีความเห็นแย้ง ยืนยันว่าสมควรสั่งฟ้องนายอนันต์ สำนวนจะถูกส่งไปให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาชี้ขาด ซึ่งผลการพิจารณาของอัยการสูงสุดจะถือเป็นที่สุดเด็ดขาด

แหล่งข่าวจากดีเอสไอระบุว่า สำนวนคดีสบคบฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินของนายอนันต์ ขณะนี้อยู่ที่กลุ่มงานความเห็นแย้ง ซึ่งดีเอสไอสามารถพิจารณาสำนวนคดีได้โดยไม่มีกรอบระยะเวลา ว่าจะต้องส่งไปยังอัยการเมื่อใด แต่ต้องอยู่ในอายุความ

157253368859
- นาย อนันต์ อัศวโภคิณ พร้อมทีมทนาย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 คดีข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด -

สำหรับประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบเพื่อทำความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด มีทั้งประเด็นข้อกฎหมาย เจตนาในการใช้ชื่อไปถือครองที่ดินแทนพระธัมมชโย การรับซื้อที่ดินจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน

“เงินจากการขายที่ดินไม่ได้ถูกโอนไปให้พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หรือมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์หางนกยูงทั้งหมด แต่หักเข้ากระเป๋าไว้ 189 ล้านบาท นอกจากนี้ที่ดินแปลงดังกล่าวยังเกี่ยวพันกับการเทคโอเวคบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ของนายศุภชัย ซึ่งเป็นความผิดฐานฟอกเงินอยู่ด้วย” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ถูกจับตามองคืออัยการสำนักงานคดีพิเศษ ที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว อยู่ในช่วงที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ เป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ปัจจุบันนายวงศ์สกุล ได้รับแต่งตั้งเป็นอัยการสูงสุด

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

157253238174

  • โต้ “อนันต์” รู้จักมักคุ้น “ศุภชัย”

รายงานข่าวแจ้งว่า ดีเอสไอได้ทำเอกสารเพื่อข้อเห็นแย้งกับเหตุผลของอัยการ แบ่งเป็น 5 ประเด็นดังนี้

1. อัยการเห็นว่า นายอนันต์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่อาจทราบได้ว่าเงินที่นำมาซื้อที่ดินและหุ้นบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด เป็นเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชนของนายศุภชัย

ดีไอเอสมีข้อสังเกตว่า นายอนันต์ รู้จักกับนายศุภชัย และเป็นกลุ่มผู้ศรัทธาของวัดธรรมกาย และพระธัมมชโย โดยทั้ง 2 คน เป็นศิษย์ที่มีบทบาทสูง โดยนายศุภชัย เคยดำรงตำแหน่งไวยาวัจกรของวัดด้วย และในช่วงที่นายอนันต์ ซื้อที่ดินปี 2555 จนกระทั่งปี 2558 ที่นายอนันต์ ขายที่ดินดังกล่าวให้กับบริษัท ไทยแอ็กโกรฯ นั้น ข่าวคราวเรื่องการทุจริตฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นของนายศุภชัย เริ่มแพร่หลายโดยเริ่มมีการตรวจสอบของจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • ชี้ให้เงินนอมินีซื้อหุ้น บ.เอ็ม-โฮม

2. อัยการเห็นว่า คดีฟอกเงินอีกคดี นายจำลอง กับบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด กับพวก พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้ร่วมกับนายศุภชัย ฟอกเงิน คงฟ้องแต่นายศุภชัย กับเจ้าหน้าที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น อีก 2 คน เท่านั้น บุคคลเหล่านั้นจึงไม่ใช่ตัวแทนของนายศุภชัย

ดีเอสไอมีข้อสังเกตว่า แม้ไม่ได้ฟ้องนายจำลองกับพวกด้วย แต่ตามคำให้การของนายจำลองกับพวก ให้การตรงกันว่า เงินที่นำไปซื้อหุ้น บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด โดยแบ่งเงินที่นายศุภชัย นำเงินสหกรณ์ฯ มาซื้อโดยบุคคลเหล่านั้นไม่ได้ออกเงินเอง และพบพยานหลักฐานเป็นเอกสารตอบโต้กันระหว่างกลุ่มนายจำลอง กับนายศุภชัย ปรากฏข้อความที่ชี้ให้เห็นว่า นายจำลองกับพวกเข้าถือหุ้น เพราะนายศุภชัยซื้อหุ้น และให้บุคคลดังกล่าวถือหุ้นแทน โดยวางแผนแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นกันชัดเจน

“และยิ่งเห็นได้ชัดแจ้งว่าเมื่อตอนหลัง นายศุภชัยได้เข้าถือหุ้นในส่วนของนายจำลองกับพวกด้วยตนเอง จึงกลายเป็นผู้มีอำนาจบริหารอย่างเปิดเผย จึงเห็นได้ชัดว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเพียงตัวแทนหรือนอมินีของนายศุภชัยเท่านั้น แม้ไม่ได้ถูกฟ้องในคดีดังกล่าว แต่ก็มีการฟ้องนายศุภชัย ซึ่งเป็นกระทำความผิดมูลฐานโดยตรงว่านำเงินดังกล่าวมาซื้อที่ดิน ที่ท้ายที่สุดแล้วนายอนันต์ ซื้อไปขายต่ออีกครั้งหนึ่ง จึงเป็นการปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของเงินแล้ว”

157253454344

  • สวน “ศุภชัย” ใช้เงินฉ้อโกงซื้อที่ดิน

3. อัยการเห็นว่าที่ดินไม่ใช่ทรัพย์สินที่นายศุภชัยได้มาจากความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน คงเป็นเงินสดที่นายศุภชัยหลอกลวงประชาชนมาลงทุนกับสหกรณ์ฯเท่านั้น ที่เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เมื่อบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ได้คืนเงินจำนวน 321 ล้านบาท ให้แก่สหกรณ์ เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปแล้ว ที่ดินดังกล่าวจึงยังเป็นของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ตลอดมา ไม่เคยเปลี่ยนสภาพไปเป็นของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

ดีเอสไอมีข้อสังเกตว่า นิยามคำว่า ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หมายความ “เงินหรือทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการกระทำ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน” แม้เงินสดที่นายศุภชัย ได้มาจากฉ้อโกงประชาชนที่นำมาลงทุนกับสหกรณ์ฯ ก็ตาม แต่เมื่อเงินดังกล่าวอยู่ในบัญชีสหกรณ์ ก็ย่อมยังคงเป็นเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชนระคนปนอยู่กับเงินที่ได้มาโดยชอบอื่นด้วย เงินที่นายศุภชัย ถอนจากบัญชีสหกรณ์ฯ ส่วนหนึ่งจึงเป็นเงินที่สหกรณ์ได้รับมา เพราะเหตุนายศุภชัย ฉ้อโกงประชาชนปนอยู่ด้วย

“เนื่องจากช่วงดังกล่าวนายศุภชัย ได้เงินจากการฉ้อโกงประชาชนมาเข้าบัญชีสหกรณ์เป็นจำนวนมาก เมื่อทำการผ่องถ่ายออกไปเพื่อปกปิดอำพรางแหล่งที่มา ด้วยการไปซื้อที่ดินบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด แล้วนายอนันต์ เข้ามารับซื้อต่อไป ที่ดินและเงินที่ได้จากการขาย จึงเป็นทรัพย์ที่เกิดจากการจำหน่าย จ่าย โอน หรือเปลี่ยนสภาพของเงินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชนดังกล่าว ย่อมเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปด้วย”

157253391696
- นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น -

  • ยัน“อนันต์”อยู่ในขบวนการถือที่ดินแทน

4. อัยการเห็นว่า เหตุที่นายอนันต์ มีชื่อในที่ดินเป็นเรื่องระหว่างกลุ่มของนายจำลอง กับบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ที่ประสงค์บริจาคที่ดิน หรือเงินที่ได้จากการขายที่ดินแก่พระธัมมชโย โดยไม่เกี่ยวกับนายศุภชัย และสหกรณ์ฯ

ดีเอสไอมีข้อสังเกตว่า ตามที่กล่าวและมีหลักฐานชัดแจ้งแล้วว่า เหตุที่นายจำลองกับพวก ได้สิทธิเข้ามาถือหุ้นใน บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ก็เพราะนายศุภชัย นำเงินสหกรณ์ฯไปซื้อที่ดินและหุ้น บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด แล้วให้นายจำลองกับพวกถือหุ้นแทนนายศุภชัย ไปก่อน

“ดังนี้นายอนันต์ ซึ่งรับรู้เรื่องดังกล่าว และเป็นหนึ่งในขบวนการได้เข้าถือครองที่ดินแทนพระธัมมชโย แล้วนำไปขายเพื่อผ่องถ่ายทรัพย์สินที่ เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปยังพวกพ้องของตนจนเป็นผลสำเร็จ จึงเป็นเรื่องวางแผนเป็นขบวนการ มาตั้งแต่ต้น”

  • ระบุเอ็ม-โฮมนอมินีของ“ศุภชัย”

5. อัยการเห็นว่าการที่นายอนันต์ รับโอนที่ดินก็รับโอนโดยตรงมาจากบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งนายศุภชัย ไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจกระทำการหรือสั่งการใดๆ แต่เป็นเรื่องระหว่างบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด กับ นายอนันต์ เท่านั้น ไม่ใช่รับโอนจากนายศุภชัย หรือถือที่ดินแทนนายศุภชัย

ดีเอสไอมีข้อสังเกตว่า บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด เป็นเพียงนอมินีของนายศุภชัย เท่านั้น โดยเบื้องต้นนายศุภชัย ให้นายจำลอง กับพวกบริหารแทน และชัดแจ้งด้วยการเข้าบริหารเองเมื่อปี 2555 ก่อนผ่องถ่ายหุ้นให้พวกพ้องอีกครั้ง