Sideways Up

Sideways Up

Short Agains Port หากดัชนีฯ ไม่ผ่าน 1605 จุด โดยมีจุดซื้อคืนที่ 1590 จุด หรือต่ำกว่า

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1605 / 1612 จุด แนวรับ 1592 / 1588 จุด เป็นผลจาก 1) สัญญาณเทคนิค มีลุ้นขึ้นต่อเนื่อง หากยืนเหนือแนวต้าน 1605 จุดได้ (ในทางตรงกันข้าม ดัชนีฯ มีโอกาสอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง หากไม่สามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้) 2) 3Q19 GDP สหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด ช่วยผ่อนคลายกังวลต่อการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลก 3) ผลประชุมเฟดมีมติ 8 ต่อ 2 เสียง ปรับลดดอกเบี้ยฯ 0.25%

ส่วนปัจจัยลบ ที่ต้องติดตาม 1) แนวโน้มการเจรจา เฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจต้องเลื่อนออกไป หลังชิลีประกาศยกเลิกการประชุมเอเปกในช่วงกลางเดือน พ.ย. 2) การสิ้นสุดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดชั่วคราว อาจส่งผลต่อการกลับมาแข็งค่าของ USD ในอนาคต ซึ่งเป็นลบต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ แต่เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ และหุ้นส่งออก

ประเด็นสำคัญวันนี้: Earnings-Shell; ญี่ปุ่น-ผลประชุม BOJ; 3Q19E GDP ของ EU,Taiwan, Italy, Spain, Hong Kong

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหว Sideway Up ตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดที่ระดับ 1601.83 จุด +10.62 จุด +0.67% วอลุ่ม 6.65 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มปิโตรฯ +3.9% ธนาคารฯ +3.11% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.78% วัสดุก่อสร้าง +1.29%

ประเด็นสำคัญ

+ ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดบวก: รายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด โดย 3Q19 GDP เติบโต 1.9% QoQ (Vs คาด 1.7%) และผลประชุมเฟดมีมติลดดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.5-1.75% เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโลก DJ +0.43% S&P500 +0.33% Nasdaq+0.33% และตลาดหุ้นยุโรป CAC40 +0.45% FTSE +0.34%

- ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อแต่ทองคำฟื้นตัว: รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาด+5.7 ล้านบาร์เรล (Vs คาด+2.5 ล้านบาร์เรล) เป็นปัจจัยถ่วง WTI -USD0.48 ปิด
USD55.06/บาร์เรล Brent -USD0.98 ปิด USD60.61/บาร์เรล ส่วนราคาทองคำฟื้นตัว USD6 ปิด USD1,496.70/ออนซ์ จากการกลับมาอ่อนค่าของเงิน USD

+ FOMC Meeting: ผลประชุมเฟดมีมติ 8 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่สามอีก 0.25% เป็น 1.50-1.75% (เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์) มีเป้าหมายที่จะรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้แข็งแกร่งและสามารถรับมือความเสี่ยงต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณพักวงจรการปรับ
ลดอัตราดอกเบี้ยฯ ที่ผ่านมา โดยถอนประโยคที่ระบุว่า “เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” สะท้อนว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งแล้ว (CME Group ให้โอกาสเพียง 17% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25%)

- ชิลี: ปธน.ปิเรญ่า ผู้นำชิลี ประกาศยกเลิกการประชุม APEC กลางเดือน พ.ย. เนื่องจากเกิดเหตุจลาจลในประเทศ ไม่พอใจรัฐบาลปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะและรถไฟใต้ดิน
ทำให้ต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน และอาจต้องใช้ความรุนแรงอย่างไม่จำกัด

+ สหรัฐฯ: กระทรวงพาณิชย์ รายงาน 3Q19 GDP ดีกว่าคาด โดยเติบโต 1.9% QoQ (Vs คาด 1.6-1.7% QoQ และ 2Q19 +2% QoQ, 1Q19 +3.1% QoQ) เป็นผลจาก Consumer Spending +2.9%(Vs 2Q19 +4.6%) และ Government Expenditure +2% ตามลำดับ ขณะที่ Private Domestic Investment ลดลง 1.5% (Vs 2Q19 -6.3%)

+ สหรัฐฯ: การจ้างงานภาคเอกชนเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นสุงกว่าคาด +125k (Vs คาด 100kและเดือน ก.ย. 93k) ส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานเพิ่มในภาคบริการที่เพิ่มขึ้นถึง +138k

กลยุทธ์: Short Agains Port หากดัชนีฯ ไม่ผ่าน 1605 จุด โดยมีจุดซื้อคืนที่ 1590 จุด หรือต่ำกว่า

หุ้นแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

           หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TASCO TISCO DTAC

           หุ้นโมเมนตัมบวก: KBANK BBL PTTEP IVL TOP IRPC KKP AMATA SPVI KCE

           หุ้นโมเมนตัมลบ: EA BGRIM OSP RATCH RATCH PIMO STEC CBG TOA NWR

           Derivatives: แนะรอเปิด Long เมื่ออ่อนตัวในช่วงบ่าย (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-คลังปิดหีบรายได้62เกินเป้า0.5%

-คลังชี้หุ้นตกผลเศรษฐกิจโลกผันผวน

-Sideways

-Sideways Down