วิกฤติ! เบียร์ญี่ปุ่นส่งออกเกาหลีใต้เหลือแสนเดียว

วิกฤติ! เบียร์ญี่ปุ่นส่งออกเกาหลีใต้เหลือแสนเดียว

ยอดส่งออกเบียร์จากญี่ปุ่นไปเกาหลีใต้ลดลงเกือบ 100% จากมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทเหลือเพียง 100,000 บาทเศษในเดือนก.ย. ผลจากกระแสคว่ำบาตรสินค้าญี่ปุ่นในแดนโสมขาว

กระทรวงการคลังญี่ปุ่น แถลงวันนี้ (30 ต.ค.) ว่า การส่งออกเบียร์ไปเกาหลีใต้ร่วงถึง 99.9% ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่มูลค่าส่งออกเบียร์ไปเกาหลีใต้ลดฮวบเหลือเพียง 5,400 ดอลลาร์ (ราว 163,242 บาท) เทียบกับ 7.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 217.6 ล้านบาท) ในเดือน ก.ย. 2561

ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นตกต่ำถึงขีดสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จากความขัดแย้งที่มีมายาวนานเกี่ยวกับประเด็นแรงงานบังคับในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเกาหลีใต้มองว่าญี่ปุ่นต้องชดใช้จากการล่าอาณานิคมของตน

ทั้งสองประเทศยังใช้มาตรการจำกัดสิทธิการค้าตอบโต้กันไปมา และในเกาหลีใต้ พลเมืองจำนวนมากเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรสินค้าแดนอาทิตย์อุทัยด้วย

157242140590

แม้เบียร์เป็นสินค้ายอดนิยมในตลาดเกาหลีใต้มานานและรั้งเบอร์ 1 สินค้านำเข้าของเกาหลีใต้มาตั้งแต่ปี 2553 แต่ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เบียร์ญี่ปุ่นร่วงไปอยู่ในอันดับ 13

การส่งออกจากญี่ปุ่นไปเกาหลีใต้ร่วงลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ในเดือน ก.ย. ตัวเลขส่งออกในเดือน ก.ย. แสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศแทบไม่ทำการค้ากันแล้ว

157242143211

  • ผลกระทบลุกลาม

ความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมถึงการท่องเที่ยว เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่ไปเยือนญี่ปุ่นลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง

เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา สำนักการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (เจทีเอ) เผยว่า จำนวนผู้เดินทางจากเกาหลีใต้มายังญี่ปุ่นลดลงในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 308,700 คน ลดลงถึง 48% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ขณะที่ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะหลังจากเกิดเหตุชายชาวเกาหลีใต้จุดไฟเผาตัวเองประท้วงญี่ปุ่นในเดือน ก.ค. ญี่ปุ่นได้หยุดส่งชิ้นส่วนทางอุตสาหกรรมที่สำคัญให้เกาหลีใต้ เช่น หน้าจอและเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ “ซัมซุง” ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ต้องลดการผลิตชิพประมวลผลอีซีโนสลงไป 10% แน่นอนว่าส่งผลต่อการผลิตกาแล็กซี โน้ต10 ด้วย

157242146025

  • มีแต่เสียกับเสีย

ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ มีแต่เสียกับเสีย โดยเฉพาะเมื่อมาเกิดในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังคาราคาซังกันอยู่ เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างใช้เวลาหลายปีสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน หากความไว้วางใจระหว่างกันถูกทำลายลง การจะสร้างห่วงโซ่อุปทานขึ้นใหม่ก็ลำบาก สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่มีประโยชน์กับใครทั้งสิ้น

ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ต่างเป็นผู้ส่งออกชิพและหน้าจอสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลก หากข้อพิพาทการค้าครั้งนี้บานปลายและยืดเยื้อย่อมไม่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก เพราะหากญี่ปุ่นควบคุมการส่งออกจนผู้ผลิตโสมขาวต้องลดการผลิต สุดท้ายผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าแพงขึ้น