ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

Trading Buy ที่แนวรับ โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1605 / 1610 จุด แนวรับ 1585 / 1580 จุด เป็นผลจาก 1) สัญญาณเทคนิคอาจเกิดรูปแบบ V-Shape
Recovery หากสามารถปิดบวกเหนือระดับ 1600 จุดได้ 2) การคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ 3) สหรัฐฯ ส่งสัญญาณอาจเซ็นสัญญากับจีนได้ก่อนการประชุมเอเปกที่ชิลี กลางเดือน พ.ย. 4) Brexit อียูต่อเส้นตายให้ UK ได้จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2020

ส่วนปัจจัยลบ คือ 1) ผลเลือกตั้งปธน.อาร์เจนติน่า เพิ่มความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้หลังได้ปธน.คนใหม่ที่เน้นนโยบายประชานิยม 2) รายงานผลกำไรบจ.ไทยที่แย่กว่าคาดการณ์นำโดย SCC DELTA ฯลฯ 3) การวิตกต่อการตอบโต้ของกลุ่ม IS หลังผู้นำถูกสังหารในซีเรีย

ประเด็นสำคัญวันนี้: Earnings-Nomura, BP, GM ; ซาอุฯ-จัดงาน Future Investment Initiative มีรมว.คลังสหรัฐฯ นายกฯ อินเดีย ร่วมงาน สหรัฐฯ-สุนทรพจน์ Janet Yellen

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทย ฟื้นตัวหลังร่วงแรงในช่วงเปิดตลาด -14.15 จุด มาปิดที่ระดับ 1596.48 จุด +3.20 จุด หรือ +0.20% วอลุ่ม 4.98 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มปิโตรฯ +2.01% วัสดุก่อสร้าง +1.43% โรงพยาบาล +1.38% ส่วนกลุ่มนำลง ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -2.67% เกษตร -1.15%

ประเด็นสำคัญ

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวกต่อเนื่อง: ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณลงนามข้อตกลงการค้ากับจีนได้ก่อนการประชุมเอเปก และการคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยฯ ต่อเนื่อง ส่งผลบวก
ต่อตลาดหุ้นโลก DJ +0.49% S&P500 +0.56% Nasdaq +1.01% และตลาดหุ้นยุโรป DAX +0.37% CAC40 +0.15% FTSE +0.09%

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำ ลดลง: WT I-USD0.85 ปิด USD55.81/บาร์เรล Brent -USD0.45 ปิด USD61.57/บาร์เรล หลังรัสเซียส่งสัญญาณเร็วเกินไปที่จะหารือกับ
กลุ่มโอเปกเพื่อลดการผลิต และราคาทองคำ -USD9.5 ปิด USD1,494.90/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย

- ไทย: สศค.ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้เป็น 2.8% (จากเดิม 3.0%) เนื่องจากส่งออกคาดเติบโต -2.5% (จากเดิม -0.9%) ส่วน 2H19E GDP คาดเติบโต +3.1% ดีกว่า 1H19 ที่เติบโต 2.6% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เงินเฟ้อปีนี้คาด 0.8% (คาด 0.6%-1%) ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีทิศทางลดลง

+ Brexit: อียูเห็นชอบเรื่องการขยายระยะเวลาการถอนตัวของอังกฤษออกจากอียูไปเป็นวันที่ 31 ม.ค. 2020 โดยอังกฤษสามารถถอนตัวก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายดังกล่าวได้
ส่วนการโหวตของสภาอังกฤษวานนี้ ไม่เห็นชอบต่อข้อเสนอของนายกฯ จอห์นสัน ต่อการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 12 ธ.ค. โดยพรรคฝ่ายค้านแจงว่าจะไม่ให้การสนับสนุนโหวต
จนกว่ารัฐบาลจะรับประกันว่าจะไม่เกิด No-deal Brexit

- อาร์เจนติน่า: ธ.กลางประกาศหั่นเพดานซื้อสกุลเงิน USD เหลือไม่เกิน USD200 ต่อเดือนผ่านบัญชีธนาคาร (จากไม่เกิน USD10,000) และไม่เกิน USD100 ต่อเดือน
สำหรับเงินสด โดยมีผลไปจนถึงเดือน ธ.ค. หลังปธน.เมาริซิโอ มาครี ยอมรับการพ่ายแพ้เลือกตั้งฯ ต่อนายอัลเบอร์โต้ เฟอร์นันเดซ (คาดรับตำแหน่งในวันที่ 10 ธ.ค.) และ
วิตกว่าอาร์เจนติน่าจะกลับมาผิดนัดชำระหนี้อีกครั้ง หลังนายเฟอร์นันเดซ ส่งสัญญาณจะเจรจากับ IMF ใหม่ในเรื่องหนี้สินและข้อตกลง

- ไทย: บจ.รายงานกำไร 3Q19 แย่กว่าคาด นำโดย SCC กำไรสุทธิ 6.2 พันล้านบาท -35%YoY -12% QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด 19% จากรายการพิเศษ แต่กำไรปกติ 8.02 พันล้านบาท ดีกว่าคาด 7% ส่วน DELTA รายงานกำไร 618.38 ล้านบาท -63% YoY แย่กว่าตลาดคาด 40%

กลยุทธ์:  Trading Buy ที่แนวรับ โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

        หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TASCO TISCO DTAC

        หุ้นโมเมนตัมบวก: IVL RBF BH META BFIT DOD MCS CHAYO PTG

        หุ้นโมเมนตัมลบ: TU CFRESH ASIAN PORT

        Derivatives: แนะถือ Short S50Z19 ที่เปิดไว้ต้นทุน 1065-1066 จุด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)