ฉวยโอกาส?

ฉวยโอกาส?

แม้ช่วงนี้ "สภาผู้แทนราษฎร" จะพักเบรกการประชุม แต่บทบาทการทำงานภายใต้ "กรรมาธิการ (กมธ.)" ของสภาฯ ยังขับเคลื่อนต่อไป

แม้ประเด็นการทำงาน จะเหมือนกับ มือใหม่ หัดขับ” เพราะหลายประเด็นเป็นการทำงานเชิงตั้งรับมากกว่า การขับเคลื่อนในทิศทางที่ช่วยยกระดับ ภาพลักษณ์ของสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นสภาที่เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ซึ่งแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ

แต่ยังมี บางกมธ.ฯ​ ที่ต้องจับตาการทำงาน เพราะเป็นประเด็นที่ห้ำหั่นกันทางการเมือง คล้ายกับการเอาคืน โดยเฉพาะการทำงานของ กมธ.ฯ งบประมาณ พ.ศ.2563” ว่าด้วย สถานะของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะดำรงตำแหน่งกมธ.ฯงบประมาณฯ63ได้หรือไม่ แม้ “พรรคอนาคตใหม่ ฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเสนอชื่อในโควตา บุคคลภายนอก

แต่ พลพรรคร่วมรัฐบาล มองว่า “ธนาธร” ยังมีตำแหน่ง ส.ส. จะใช้สิทธิ คนนอก” นั่งในกมธ.ฯ ได้อย่างไร หากจะให้เหมาะสม ต้อง “ทิ้งตำแหน่งส.ส.” เสียก่อน

ซึ่งเรื่องนี้มีคนชงเรื่องให้กมธ.ฯ งบประมาณ63 พิจารณาคือ “สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ” และชงต่อไปยัง  “ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ”​ และ ศาลรัฐธรรมนูญด้วย

ขณะที่ กลุ่มพรรคฝ่ายค้าน อย่าง เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” กมธ.งบประมาณฯ​ โควตา พรรคเพื่อไทย มองว่าการพิจารณา ความเหมาะสมของ “ธนาธร” ไม่มีผู้ใดโต้แย้งได้ เพราะที่ประชุมสภาฯ รับรองไปแล้ว และหากใครต้องการโต้แย้ง ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภาฯ ให้พิจารณา

กับประเด็นนี้ ยอมรับว่า ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ไม่กล้าที่จะชี้ขาด เพราะมีความก้ำกึ่งของสถานะของ “ธนาธร”​ ว่าใช้สิทธิ กมธ.ฯ คนนอก ทั้งที่ มีสถานะ “ส.ส.” แม้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ได้หรือไม่ และไม่เคยมีเหตุการณ์แบบที่ว่านี้เกิดขึ้นมาก่อน

ซึ่งต้องยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทางหนึ่ง คือ การใช้ช่องว่าง ในประเด็นกฎหมาย ฉวยโอกาส เพื่อเล่นเกมทางการเมือง แม้ “ธนาธร”​ จะเคยพูดว่า ด้วยเจตนาดี เพื่อให้เขาเองได้ศึกษาเรียนรู้ วิธีของการทำงบประมาณ จึงได้สิทธิคนนอกมาร่วม แต่การ สร้างภาพจากคำพูด มองในอีกทาง คือการฉวยโอกาส ให้เกิดเกมทางการเมือง และท้ายสุด อาจเป็นมูลเหตุที่ทำให้การเมืองยุคใหม่ อย่างที่ อนาคตใหม่ ตั้งใจให้เกิด ยังไม่เกิดขึ้นจริง