"สิงห์" ซื้อ "ซานตาเฟ่" เดินแผนปั้นธุรกิจอาหาร บริหารเสี่ยงธุรกิจเบียร์

"สิงห์" ซื้อ "ซานตาเฟ่" เดินแผนปั้นธุรกิจอาหาร บริหารเสี่ยงธุรกิจเบียร์

หลังจากกลุ่มธุรกิจ “ฟู้ด แฟคเตอร์” ธุรกิจอาหารเสาหลักที่ 6 ในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ (อีก 5 เสาหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจเบียร์ โซดา และน้ำดื่ม ,ธุรกิจบรรจุภัณฑ์บางกอกกล๊าส ,ธุรกิจระดับภูมิภาค (รีจินัล) ,ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจซัพพลายเชน)

ลงทุน 1,500 ล้านบาทปิดดีลเจรจากว่า 6-7 เดือน ก่อนเข้าไปถือหุ้น 88% ในกลุ่มธุรกิจ เคที เรสทัวรองท์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ร้านอาหาร ซานตาเฟ่” ถือเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์พารุกธุรกิจอาหารในเครือบุญรอดฯที่มีพอร์ตกว่า 5 พันล้านบาทเติบโตก้าวกระโดด ภายใต้เป้าหมายดันรายได้ธุรกิจอาหาร สู่ 1.5 หมื่นล้านบาทใน 5 ปีจากนี้

ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) เปิดเผยถึงที่มาของดีลดังกล่าวว่า แม้จะใช้เวลาเจรจาค่อนข้างนานเนื่องจากมีรายละเอียดมาก แต่ความที่ธุรกิจ “มีเคมีตรงกัน"ในมุมมองที่จะสร้างการเติบโตให้กับซานตาเฟ่ในอนาคต ผสานกับราคาซื้อขายที่ลงตัว ทำให้บุญรอดฯจบดีลรวบธุรกิจร้านอาหารซานตาเฟ่ที่มี 117 สาขามาอยู่ในพอร์ตในที่สุด

โดยกลยุทธ์การเติบโตจากนี้ชัดเจนว่า ซานตาเฟ่จะเน้นการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกับรุกสู่ธุรกิจดิลิเวอรี่ เสริมโอกาสรุกธุรกิจอาหารครบวงจรของเครือภายใน 5 ปีจากนี้ (ปี 2563-2567) ไปพร้อมกับการบริหารความเสี่ยงในธุรกิจเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ และนอน แอลกอฮอล์ 

"การทำธุรกิจเก่าเบียร์ น้ำ โซดา (สิงห์) มากกว่า 85-86 ปี จนมีเพราะมีเครือข่ายที่มั่นคงแข็งแรง แต่ไม่ได้หมายถึงจะเติบโตเช่นนี้ตลอดไป การที่เข้าไปดูแลบริหารจัดการกลุ่มซัพพลายให้ครบวงจร จึงต้องเพิ่มธุรกิจอาหาร"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ยังระบุว่า จากนี้จะผนึกกำลังสร้างความแข็งแกร่ง (Synergy) ธุรกิจอาหารในเครือ ตั้งแต่ ต้นน้ำ-ปลายน้ำ การผลิต การกระจายสินค้า ตลอดจนการสร้างเครือข่ายธุรกิจ ใน 3 แผนหลัก ประกอบด้วย 1.การพัฒนาและผลิตสินค้า โดยมีโรงงาน และทีมวิจัยเตรียมพร้อมรองรับ พัฒนา และผลิตสินค้าใหม่โดยอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ทั้งเทคโนโลยีในการวบรวมข้อมูล (Big Data) และวิเคราะห์ข้อมูล (AI) ภายใต้บริษัท เฮสโก ฟู้ด และมี ศูนย์นวัตกรรมอาหาร (Food Innovation Center) โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีสินค้าใหม่ เข้าไปช่วยสร้างการเติบโตให้กลุ่มธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ (Product Champion) ไม่ต่ำกว่า 25 สินค้าภายใน 2-3 ปี

2 แผนการสร้างเครือข่ายธุรกิจอาหาร (Food Network) โดยการหาพันธมิตรที่เข้ามาร่วมกันขยายเครือข่ายทุกด้านตั้งแต่ภาคการผลิต โรงงาน ค้าปลีกกลุ่มธุรกิจโมเดิร์นเทรด รวมไปถึงธุรกิจดิจิทัล ที่ล่าสุด ไปร่วมกับ แกร๊บ ฟู้ด (Grab Food) ฟู้ด เดลิเวอรี่ สั่งทุกเมนู ซานตาเฟ่ ผ่านแกร็บ ฟู้ด เป็นหนึ่งในการสร้างพันธมิตรที่ขยายช่องทางการค้า และ 3.กลุ่มร้านอาหาร (Food Retail) กลุ่มร้านอาหารที่จะมีการขยายหน้าร้านให้เข้าถึงผู้บริโภค

โดย 3 แผนหลักดังกล่าว มีรวมทั้งการเข้าไปซื้อกิจการ (M&A –Mergers and Acquisitions) หรือการเข้าไปร่วมทุนและพัฒนาธุรกิจและสินค้าใหม่ขึ้นมาเอง ตั้งเป้าหมายภาพรวมจะต้องมีร้านอาหาร 50 สาขาภายใน 2-3 ปี โดยเตรียมงบประมาณ 5,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี (2563-2567) ซึ่งมีการปิดดีลเคที เรสทัวร์รอง ไปแล้ว จึงเหลืองบกว่า 3,500 ล้านบาท แต่หากมีดีลขนาดใหญ่ที่การเจรจาลงตัว และเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจก็พร้อมจะนำเสนอคณะกรรมการบริหารบริษัท (บอร์ด)ให้มีการระดมทุน หรือมีการกู้ยืมเงินบริษัทแม่ ทั้งนี้ เป้าหมายที่จะสร้างรายได้ 15,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่มีรายได้ราว 5,000 ล้านบาท

"ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารในพอร์ตโฟลิโอของฟู้ด แฟคเตอร์ ประกอบด้วย ร้านฟาร์มดีไซน์,ร้านอาหารญี่ปุ่นKitaohjiและเอส33โดยบริษัท เอสคอมพานี จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและล่าสุดร้านสเต็กซานตา เฟ่ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตโดยวางแผนเพิ่มจุดขายในการจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม เช่น น้ำดื่ม เบียร์ ข้าวบรรจุถุงพันดี ฯลฯ

พร้อมร่วมคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกันกับกลุ่มบริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด และบริษัท เฮสโก ฟู้ด จำกัดและยังมี Food innovation Centerศูนย์นวัตกรรมในการวิจัยและพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงพร้อมพัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับร้านซานตา เฟ่ สเต็กและเหม็งนัวนัว"

ด้าน สุรชัย ชาญอนุเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด ผู้บริหารร้านซานตาเฟ่ กล่าวว่า การร่วมมือทางธุรกิจกับ ฟู้ด แฟคเตอร์ ทำให้กลุ่มธุรกิจเติบโตได้รวดเร็วขึ้น เพราะมีความพร้อมในด้านการวิจัยพัฒนาสินค้า และเครือข่ายโลจิสติกส์ที่แข็งแรง ทำให้มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี หลังจากร่วมมือกันตั้งเป้าเติบโตขึ้นเป็น 20 % ต่อปี โดยมีการขยายสาขาซานตาเฟ่ ตั้งเป้าหมายปีละ 10 สาขา และขยายเป็นแฟรนไชส์ปีละ 10 สาขา ขณะที่ meng นัวนัว ร้านอาหารจีนที่มีการรีแบรนด์เป็นร้านอาหารอีสาน 1 ปีที่ผ่านมาตั้งเป้าหมายขยายสาขา 10 สาขาภายใน 6-7 ปี

ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจเคที เรสทัวรองท์ มีรายได้มูลค่า 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาทภายในปี 2563