สหรัฐตัดสิทธิ GSP ไทย

สหรัฐตัดสิทธิ GSP ไทย

คาด SET อ่อนตัวลงทดสอบ 1,585 – 1,590 จุดก่อนจะสลับดีดตัว จากแรงกดดันสหรัฐสั่งระงับสิทธิพิเศษ GSP แก่ประเทศไทยมีผล 25 เม.ย. 2563

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET Index ปรับตัวลง -27.69 จุด (-1.71%) ปิดที่ระดับ 1,593 จุด ด้วย Volume 7.6 หมื่นล้านบาท จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบภาวะ Tradewar ประกอบกับแรงขายลดความเสี่ยงในกลุ่ม Real sector เช่น โรงกลั่น ปิโตร วัสดุก่อสร้าง รับเหมา อสังหาฯ ที่คาดว่าจะรายงานงบ 3Q19 อ่อนตัวลงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางตลาดให้ทรุดตัวลงแรง ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่สองอีก 1,466 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX จำนวน 23,405 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 178 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง-ลบคาด SET อ่อนตัวลงทดสอบ 1,585 – 1,590 จุดก่อนจะสลับดีดตัว จากแรงกดดันสหรัฐสั่งระงับสิทธิพิเศษ GSP แก่ประเทศไทยมีผล 25 เม.ย. 2563 เนื่องจากรัฐบาลไทยประสบความล้มเหลวในการยกระดับสิทธิแรงงานให้เท่าเทียมกับมาตรฐานโลก รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงความสัญญาณเทคนิคหลังดัชนีหลุด 1,600 จุดลงมาโดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น ปิโตร วัสดุก่อสร้าง รับเหมา อสังหาฯ ที่คาดว่างบ 3Q19 จะหดตัวลงซึ่งเป็นลบต่อ sentiment การลงทุน อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากแรงหนุนความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ใกล้บรรลุข้อตกลงบางส่วนในขั้นแรก รวมถึงคาดการณ์ Fed ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็น 1.75% ในการประชุม 29 – 30 ต.ค.ซึงเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนและกระแส Fund Flow

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • หุ้นที่คาดว่างบ 3Q19 จะเติบโต GPSC, BGRIM, EA, ADVANC, BCH, CHG, EPG, TASCO ,PRM, JMT, JMART, BGC
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • ADVANC (ปิด 232 ซื้อ/เป้า 260) ปลอดภัยจาก Trade war, ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 3Q19 ยังเติบโตตรงข้ามกับหุ้น Big Cap ในกลุ่ม พลังงานและธนาคารที่ชะลอตัว โดยเราคาดกำไรสุทธิประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy
  • CHG (ปิด 2.50 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 2.7) คาดผลกำไรผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว และจะเห็นกำไรที่เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q19 โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ประกันสังคมที่ฟื้นตัว โรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ขาดทุนลดลง และยังมี Upside ในการปรับค่ารักษาพยาบาลกลุ่มลูกค้าประกันสังคมเพิ่มคล้ายกับ BCH (ค่ารักษาส่วนประกันสังคมจะมีการปรับทบทวนราคาทุกๆ 2 ปี โดยปรับครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2017)

บทวิเคราะห์วันนี้

CENTEL (ปิด 27.5 ถือ - อยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำและราคาเป้าหมาย /เป้า 33)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) ภาคส่งออกไทยยังเหนื่อย ล่าสุดสหรัฐประกาศตัด GSP กับสินค้าไทย 571 รายการมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท: โดยการตัดสิทธิครั้งนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ปีหน้า โดยมีกลุ่มสินค้าที่ถูกตัดสิทธิ์ อาทิ อาหารทะเลแปรรูป พาสต้า ถั่วชนิดต่างๆ แยมผลไม้ น้ำผลไม้ ซอสถั่วเหลือง และเคมีภัณฑ์ การถูกตัดสิทธิในครั้งนี้จะทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากจะมีต้นทุนส่งออกสูงขึ้นเพราะสินค้าไทยจะถูกสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าทันทีเมื่อมาตรการมีผลบังคับใช้ โดยกระทรวงพาณิชย์คาดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยจะสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 4.5% ส่งผลลบต่อภาพรวมการส่งออกที่อาจจะหดตัวมากขึ้นกดดัน GDP เติบโตในอัตราที่ชะลอลง และส่งผลลบต่อผลการดำเนินงานและ Sentiment การลงทุนต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกลุ่มส่งออก อาทิ TU, CPF
  • (+) ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐยังแข็งแกร่งหนุนดาวโจนสปิดบวก ขณะที่แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงหนุนน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4: ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯถือว่าแข็งแกร่งมาก โดย FactSet เปิดเผยว่าปัจจุบันจดทะเบียนใน S&P500 รายงานผลประกอบการ 3Q19ออกมาแล้วประมาณ 38% พบว่ากว่า 78% มีผลกำไรสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ปัจจัยนี้หนุนให้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 152.53 จุด หรือ +0.57% ปิดที่ระดับ 26,958 จุด ส่วนตลาดน้ำมันราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ขานรับรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงแรงกว่า 17 แท่น จาก 713 แท่นเป็น 696 แท่น โดยราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ (+0.8%) ปิดที่ระดับ 56.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • (+) สัปดาห์นี้ลุ้น Fed ลดดอกเบี้ย และ นำโครงการ QE กลับมาใช้ ช่วยหนุน Sentiment การลงทุน: คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) มีกำหนดประชุมเพื่อพิจารณาการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. เราและตลาดคาดว่า Fed อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.25% เป็น 1.75% เพื่อพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจลดผลกระทบจากสงครามการค้า และคาดว่า Fed จะประกาศนำ QE กลับมาใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการซื้อพันธบัตรผ่าน Fed Balance sheet ที่สูงขึ้นแล้ว โดย CME Group คาดความน่าจะเป็นที่ Fed จะลดดอกเบี้ยครั้งนี้อยู่ที่ 93%