ระวังความผันผวนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีดตัวขึ้น

ระวังความผันผวนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีดตัวขึ้น

จับตาจุดเปลี่ยนโมเมนตัมทางเศรษฐกิจโลก

แม้ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงชะลอตัว อย่างไรก็ตามเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจบางภูมิภาค ซึ่งสนับสนุนมุมมองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงปี 2563 โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมิน GDP โลกจะฟื้นตัวขึ้นเป็น 3.4% จากเพียง 3.0% ในปีนี้ ซึ่งหากสหรัฐฯ-จีน สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเบื้องต้นได้ จะส่งผลอย่างมากต่อมุมมองเศรษฐกิจโลกปีหน้าโดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2563

แต่ช่วงสั้นจะผันผวน เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ฟื้นจะทำให้เกิดการปรับพอร์ตการลงทุน อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่องตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างไรก็ตามในช่วงสั้นการกลับมาส่งสัญญาณของการดำเนินนโยบายผ่อนคลายและเพิ่มขนาดของงบดุลของเฟด ทำให้อัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ มีโอกาสดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำ ซึ่งในระยะสั้นจะทำให้เกิดความผันผวนจากแรงปรับพอร์ตลงทุนช่วงสั้น จากแรงทำกำไรในกลุ่มหุ้นปลอดภัยที่ปรับขึ้นมามากได้

สหรัฐฯปรับลดสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี (GSP) สินค้าไทยเป็นลบต่อจิตวิทยาการลงทุนช่วงสั้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประมง แต่ผลกระทบค่อนข้างจำกัดต่อผู้ประกอบการที่เป็นบจ.อย่าง TU ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว ขณะที่กระทรงพาณิชย์ประเมินมีผลกระทบต่อการส่งออกเพียงราว 0.01% ของตัวเลขส่งออกรวม อย่างไรก็ตามปัจจัยข้างต้นถือเป็นจิตวิทยาเชิงลบในจังหวะที่ตลาดขาดแคลนปัจจัยบวก ขณะที่การรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/62 ยังมีโอกาสเห็นการปรับประมาณการผลกำไรของบจ.ลง

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, BGRIM, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ การหลุด1620 จุดทำให้ความเสี่ยงทางลงของ SET Index เปิดมากขึ้น โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1570-1610 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ WHAUP / THRE* (เป้า 0.66, ตัดขาดทุน 0.54)

แนวรับ 1570-1590 จุด / แนวต้าน : 1600-1610. สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

กำไรภาคอุตสาหกรรมจีนหดตัว สนง.สถิติแห่งชาติของจีน รายงาน ตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.62 หดตัวลง 2.1% YoY ขณะที่ตัวเลขเดือน ก.ย.หดตัวลง 5.3% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวและแรงกดดันจากเงินฝืด

การเจรจาการค้ายังเป็นบวก กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหลิว เหอ รองนายกฯจีน ได้บรรลุข้อตกลงทางเทคนิคเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วนเรียบร้อยแล้ว

เอกชนห่วงจ้างงานลดลง สภาหอการค้า เผยภาวะบาทแข็ง และ เศรษฐกิจโลกถดถอย กระทบการจ้างงาน คาดปีหน้ารุนแรงขึ้น

SCC – ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/62 วันนี้ เราคาด 7.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่น่าจะทำให้ตลาดปรับประมาณการกำไรทั้งปีลง แต่คาดราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไว้พอสมควรแล้ว

กลุ่มอาหาร – คาดช่วงสั้นผันผวนจาก 1) ประเด็นตัเ GSP และ 2) การแบนสารพิษ ทำให้อาจกระทบต่อวัตถุดิบการผลิตที่สำคัญอย่างถั่วเหลือง กระทบ TVO, CPF, GFPT ได้

ประเด็นติดตาม: 29 ต.ค.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ, 30 ต.ค. – FOMC meeting / US GDP 3Q62, 31 ต.ค. – Manufacturing PMI ของจีน, 1 พ.ย.ตัวเลขเงินเฟ้อไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-เก็งกำไรเชิงตั้งรับโดยเน้นลงทุนรายตัวในหุ้นที่ทิศทาง

-'ยูโอบี' ชู2กองแอลทีเอฟ ลงทุนสู้หุ้นผันผวน

-ยูโอบีเสนอขายกองทุนเปิด(UDBC3Y3)

-UOBAM โค้งท้ายปีนี้รุกเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนออนไลน์