“บ้าน-คอนโด” ภาคตะวันออก ครึ่งปีเหลือขายสองแสนล้าน

“บ้าน-คอนโด” ภาคตะวันออก ครึ่งปีเหลือขายสองแสนล้าน

​ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ สำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ภาคตะวันออก ครึ่งปีแรกปีนี้ พบ 1,062 โครงการอยู่ระหว่างการขาย เหลือขายกว่า 6 หมื่นหน่วย มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ระบุนิคมฯอมตะ-บายพาส นิคมฯอมตะซิตี้-อีสเทิร์น สองทำเลเหลือขายบ้านจัดรรมากสุดรวมกว่าหมื่นยูนิต

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลฯ ได้สำรวจซัพพลายและดีมานด์ของโครงการ ที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งแรกปี 2562 ในภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง ตาก และฉะเชิงเทรา พบว่า มีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 1,062 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 62,060 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 200,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 คิดเป็น 11.6% 12.2% และ 13.6% ตามลำดับ

แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรรมีจำนวนโครงการ 853 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 44,549 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 124,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 คิดเป็น 18.3% 15.9% และ 14.7% ตามลำดับ

โครงการอาคารชุดมีจำนวน 192 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 17,329 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 70,698 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 คิดเป็น 10.7% แต่จำนวนหน่วยและมูลค่าเพิ่มขึ้น 3.5% และ 9.9% ตามลำดับ

ทั้งนี้ โครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดชลบุรี ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 24,656หน่วย ทำเลบ้านจัดสรรที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ทำเลนิคมฯอมตะนคร-บายพาส มีจำนวน 3,621 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 9,605 ล้านบาท 2.ทำเลนิคมฯพานทอง-พนัสนิคม มีจำนวน 3,104 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 7,545 ล้านบาท 

3.ทำเลนิคมฯบ่อวิน มีจำนวน 2,928 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 5,968 ล้านบาท 4.ทำเลบางแสน-หนองมน-บางพระ มีจำนวน 2,428 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 9,265 ล้านบาท และ 5.ทำเลศรีราชา-อัสสัมชัญ มีจำนวน 2,243 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 7,486 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่แล้วเกือบทั้ง 5 ทำเลนี้เหลือขายในประเภททาวน์เฮ้าส์ และอยู่ในระดับราคา 1.51 – 2.00 ล้านบาทมากที่สุด

โครงการอาคารชุดที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดชลบุรีในจำนวนหน่วยเหลือขาย 16,464 หน่วย ทำเลอาคารชุดที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก มีจำนวน 6,491 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 30,516 ล้านบาท 2.ทำเลหาดจอมเทียน มีจำนวน 5,217 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 24,723 ล้านบาท

3.ทำเลแหลมฉบัง มีจำนวน 1,499 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 2,271 ล้านบาท 4.ทำเลในศรีราชา-อัสสัมชัญ มีจำนวน 1,230 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 5,409 ล้านบาท และ 5) ทำเลนิคมฯบ่อวิน มีจำนวน 425 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 527 ล้านบาท 

โครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดระยอง ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 14,479หน่วย ทำเลบ้านจัดสรรที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ได้แก่ 1.ทำเลนิคมฯอมตะซิตี้-อีสเทิร์น มีจำนวน 7,239 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 13,824 ล้านบาท 2.ทำเลนิคมฯมาบตาพุด มีจำนวน 2,556 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 8,722 ล้านบาท

3.ทำเลนิคมฯเหมราช มีจำนวน 2,091 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 5,097 ล้านบาท 4.ทำเลบ้านฉาง-อู่ตะเภา มีจำนวน 1,698 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 4,861 ล้านบาท และ 5.ทำเลเมืองระยอง มีจำนวน 623 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 2,814 ล้านบาท

โครงการอาคารชุดที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดระยอง ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 525 หน่วย ทำเลอาคารชุดที่เหลือขาย ได้แก่ 1.ทำเลเมืองระยอง มีจำนวน 292 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 709 ล้านบาท 2.ทำเลนิคมฯอมตะซิตี้-อีสเทิร์น มีจำนวน 107หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 161 ล้านบาท 3.ทำเล แกลง มีจำนวน 63 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 209 ล้านบาท  4.ทำเลนิคมฯเหมราช มีจำนวน 48 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 60 ล้านบาท และ 5.ทำเลบ้านฉาง-อู่ตะเภา มีจำนวน 15 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 26 ล้านบาท ส่วนใหญ่เหลือขาย ในประเภท 1 ห้องนอน และอยู่ในระดับราคา 1.01 – 1.50 ล้านบาทมากที่สุด

โครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดฉะเชิงเทรา ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 5,414 หน่วย ทำเลบ้านจัดสรรที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ทำเลบางปะกง มีจำนวน 2,004 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 6,290 ล้านบาท 2.ทำเลในเมืองฉะเชิงเทรา มีจำนวน 1,542 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 4,573 ล้านบาท 3. ทำเลบ้านโพธิ์ มีจำนวน 828 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 2,623 ล้านบาท 4. ทำเลคลองหลวงแพ่ง มีจำนวน 766 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 1,974 ล้านบาท และ 5.ทำเลแปลงยาว มีจำนวน 160 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 312 ล้านบาท