สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 21-25 ตุลาคม 2562

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 21-25 ตุลาคม 2562

เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่ที่ 30.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลงหลุดระดับ 1,600 จุด

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายต่อเนื่อง หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณอ่อนแอตอกย้ำโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ เงินบาทเพิ่มช่วงบวกและทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่ที่ 30.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคหลังเงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 30.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ได้ในช่วงปลายสัปดาห์

- ในวันศุกร์ (25 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 ต.ค.-1 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ย. ของธปท. และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลการประชุมเฟด (29-30 ต.ค.) ความคืบหน้าของเรื่อง BREXIT รวมถึงสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิตเดือนต.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่าย และดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือนก.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 (advance)

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงหลุดแนว 1,600 จุด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,593.28 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ลดลง 2.34% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 56,710.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.44% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 3.13% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 326.21 จุด 

- ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ โดยถูกกดดันจากตัวเลขการส่งออกของไทยที่หดตัวลงกว่าที่คาดในเดือนก.ย. แต่ดีดตัวขึ้นได้ในช่วงสั้นๆ ในช่วงต่อมาตามตลาดหุ้นภูมิภาคท่ามกลางความคาดหวังต่อโอกาสในการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ร่วงลงอย่างหนักอีกครั้งในเวลาต่อมา โดยถูกฉุดจากแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารจากความกังวลต่อแนวโน้มธุรกิจในอนาคต ประกอบกับตลาดมีความกังวลต่อทิศทางผลประกอบการในหุ้นกลุ่มอื่นๆ ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 ต.ค. - 1 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,575 และ 1,560 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,605 และ 1,620 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/62 การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (29-30 ต.ค.) สถานการณ์ BREXIT และประเด็นการค้าสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย. และจีดีพีไตรมาส 3/62 ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของ BOJ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน