เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต 'ใบเดียว' ก็เข้าคลินิกแก้หนี้ได้

นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า ล่าสุด                    ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับเกณฑ์ของโครงการคลินิกแก้หนี้ เปิดโอกาสให้คนที่เป็นหนี้เสียสารพัดบัตรกับธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์เพียง 1 แห่ง สามารถเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ด้วย จากเดิมกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วม จะต้องเป็นหนี้เสียกับสถาบันการเงินตั้งแต่ 2แห่งขึ้นไป 

การปรับเกณฑ์ครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสช่วยประชาชนที่มีปัญหาหนี้เสียได้ในวงกว้างขึ้น โดยเกณฑ์ใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันนี้ คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีเจ้าหนี้เพียงรายเดียวและมีคุณสมบัติไม่ตรงตามหลักเกณฑ์เดิม  นอกจากนี้ คลินิกแก้หนี้ยังได้ผนึก 35 สถาบันการเงิน เพื่อให้ลูกหนี้จากสถาบันการเงินเหล่านี้สามารถเข้าถึงโครงการได้ด้วย ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง และนอนแบงก์ 19 แห่ง  

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอลกับสถาบันการเงิน แห่งเดียวราว 1,500 คน ติดต่อขอเข้าโครงการแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถผ่านเกณฑ์ได้ ดังนั้นคาดว่าการขยายเกณฑ์ครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มนี้สามารถเข้าโครงได้ รวมถึงลูกหนี้บัตรเครดิต และลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้เข้ามาติดต่อโครงการ สามารถเข้าสู่โครงการได้อีกมาก 

ทั้งนี้คาดว่า สิ้นปีนี้ มีโอกาสเห็นยอดคนที่ผ่านเข้าโครงการ และเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ได้ตามเป้าหมาย7,000 รายได้ สำหรับยอดการปรับโครงการหนี้ ที่ได้มีการเซ็นสัญญาแล้วในปัจจุบัน อยู่ที่เกือบ 3,000 คนแล้ว และอยู่ในการพิจารณาเงื่อนไขของลูกหนี้ โดยผ่านคุณสมบัติรอบแรกแล้วอีกกว่า 1,000 ราย

“เราหวังว่าจากการขยายเกณฑ์ครั้งนี้ จะทำให้มีลูกหนี้จำนวนมากมีโอกาสเข้าสู่โครงการได้ด้วย เพราะที่ผ่านมา มีลูกหนี้จำนวนมากกว่า 1,500 คนที่อยากเข้าโครงการ แต่เข้าไม่ได้ เพราะเป็นหนี้แห่งเดียวส่วนอีกกลุ่มยังไม่เป็นหนี้เสีย ซึ่งวันนี้เราสามารถช่วยกลุ่มที่มีหนี้แห่งเดียวได้  ต่อไปเราก็จะดูว่าจะเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มอื่นๆอย่างไรได้บ้าง”

สำหรับเกณฑ์การเข้าโครงการ  ต้องมีคุณสมบัตินี้ 1. เป็นหนี้เสีย หมายถึงไม่ได้ชำระหนี้หรือไม่ได้ชำระขั้นต่ำ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารหรือนอนแบงก์ เป็นระยะเวลานานติดต่อกันมากกว่า 90 วันและก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2562 2. ไม่ถูกดำเนินคดีหรือถูกดำเนินคดีอยู่ แต่ต้องยังไม่มีคำพิพากษา 3.มียอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาทและ 4. เป็นบุคคลธรรมดา อายุไม่เกิน 65 ปี ที่มีรายได้ โดยผู้สมัครที่ผ่านเงื่อนไข โครงการ “คลินิกแก้หนี้” จะได้รับประโยชน์ในการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนในจำนวนที่น้อยลง ด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนและคงที่ 4-7% ในระยะเวลายาวนานสูงสุดถึง 10 ปี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-แก้หนี้ฟีเวอร์

-ธปท.หามาตรการแก้หนี้'รายย่อย'

-ข่าวดี!! มีหนี้ไม่ต้องหนี 'แบงก์ชาติ' ช่วย ปชช.ปลดหนี้