Sideways Up

Sideways Up

Trading Buy เพื่อขายทากาไรที่แนวต้าน โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1638 / 1644 จุด แนวรับ 1620 / 1615 จุด เป็นผลจาก 1) การเจรจาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังคงมีความก้าวหน้า 2) Brexit มีโอกาสสูงที่อียูจะอนุมัติแผนเลื่อนเส้นตายไปอีก 3 เดือน หลังสภาอังกฤษไม่อนุมัติร่างกฎหมายของนายกฯ จอห์นสัน ที่จะให้พิจารณาให้เสร็จภายใน 3วั น 3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เป็น Positive Momentum ต่อกลุ่มที่อยู่อาศัย กลุ่มอาหาร กลุ่มโรงแรม 4) พรรคร่วมรัฐบาลชนะการเลือกตั้งซ่อมที่จ.นครปฐม ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา คือ รายงานผลกาไรบจ. ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ ประเด็นสำคัญวันนี้: US Earnings: 45 บจ.ที่คานวณดัชนี S&P500 ประกาศงบวันนี้ อาทิ Twitter, Amazon ฯลฯ / ECB-rate decision คาดไม่เปลี่ยนแปลง / อินโดนีเซีย-Rate decision / สหรัฐฯ-สินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวันอังคาร

ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวสูงขึ้นตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับ 1631.46 จุด +10.68 จุด หรือ +0.66% วอลุ่มซื้อขาย 3.88 หมื่นล้านบาท นาขึ้นโดยกลุ่มไฟแนนซ์ +2.14% พลังงาน +1.65% อาหาร +1.14%

ประเด็นสาคัญ

+/- วันอังคำรที่ผ่ำนมำ ตลำดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นโลกปรับลดลง DJ -0.15% S&P500 -0.36% Nasdaq -0.72% แต่ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นเล็กน้อย DAX +0.05% CAC40 +0.17% FTSE +0.68% รอลุ้นผล Brexit แต่มีประเด็นบวกจากรายงานผลกาไรบจ. ยุโรปส่วนใหญดีกว่าคาด ส่วนน้ำมันดิบปิดบวกแต่ทองคำปิดลดลง: ข่าวกลุ่มโอเปกจะพิจารณาปรับลดกาลังการผลิตเพิ่มเติมในการประชุมเดือน ธ.ค. เป็นปัจจัยบวกต่อ WTI +USD0.85 ปิด USD54.16/บาร์เรล Brent +USD0.74 ปิด USD59.70/บาร์เรล ส่วนทองคาปิด -USD0.60 ปิด USD1,487.50/ออนซ์ จากการแข็งค่าของ เงินสกุล USD

+ วันพุธที่ผ่ำนมำ ตลำดหุ้นโลกปิดสูงขึ้น: ผลประกอบการบจ.ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลบวกต่อ DJ +0.17% S&P500 +0.28% + Nasdaq +0.19% DAX +0.34% FTSE +0.67% เช่นเดียวกันกับรำคำน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก WTI +USD1.49 ปิดUSD55.97/บาร์เรล Brent +USD1.47 ปิด USD61.17/บาร์เรล รับข่าวสหรัฐรายงาน สต๊อกน้ามันดิบสัปดาห์ก่อนลดลงกว่าคาด (ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล Vs คาดเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรล) และราคาทองคา +USD8.2 ปิด USD1,495.7/ออนซ์ จากการกลับมาอ่อนค่าของ USD

- BREXIT: สภาผู้แทนอังกฤษฯ มีมติไม่เห็นชอบ 322 ต่อ 308 เสียง ต่อตารางเวลาในการผ่านกฎหมายเกี่ยวข้องกับ Brexit เพียง 3 วัน แม้จะมีมติเห็นชอบ 329 ต่อ 209 เสียงเห็นชอบต่อร่างกฎหมาย Withdrawal Agreement Bill ของนายกฯ จอห์นสัน ทาให้อังกฤษไม่สามารถแยกตัวออกจากอียูได้ทันเส้นตายเดิมในวันที่ 31 ต.ค. ส่งผลให้ อียูต้องให้การอนุมัติขยายเส้นตายออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด No-Deal Brexit (โอกาสสูงขึ้นที่อังกฤษจะเกิดการเลือกตั้ง คาดเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.)

+ ไทย: ครม. มีมติอนุมัติ 1) ค่าธรรมเนียมการโอน-จานองอสังหาฯ ที่มูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ให้เหลือ 0.01% 2) เริ่มลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. พร้อมขยายเวลาสิ้นสุดไปถึง 31 ธ.ค. 2020 โดย Cash back คืน 20% สาหรับการใช้จ่ายระหว่าง 3-5 หมื่นบาท 3) ไฟเขียวงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง ปีงบ 2020 วงเงินดาเนินการ 1.44 ล้านบาท วงเงินเบิกจ่ายลงทุน 3.4 แสนล้านบาท (ส่งผลบวกต่อบริษัทอสังหาฯ ที่มีสินค้าในกลุ่มระดับล่าง QH PSH SPALI LPN)

+ ไทย: ผลเลือกตั้งซ่อมจ.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้คะแนนอันดับ 1 ที่ 3.7 หมื่นคะแนน อันดับสอง คือ พรรคอนาคตใหม่ 2.8 หมื่นคะแนน

กลยุทธ์: Trading Buy เพื่อขายทากาไรที่แนวต้าน โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนาเก็งกาไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

        หุ้นแนะนารายสัปดาห์: OSP HTC JMT

        หุ้นโมเมนตัมบวก: BFIT BEAUTY DOHOME AMANAH GPSC SPCG SINGER JMT BGRIM BCPG JMART OSP

        หุ้นโมเมนตัมลบ: SYNEX FPT BWG S11

        Derivatives: แนะเปิดหรือสะสม Short G0Z19 เก็งกาไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)