ไอเอ็มเอฟเตือนศก.เอเชียชะลอหนัก-ลากยาวถีงปีหน้า

ไอเอ็มเอฟเตือนศก.เอเชียชะลอหนัก-ลากยาวถีงปีหน้า

ไอเอ็มเอฟเตือนศก.เอเชียชะลอหนัก-ลากยาวถีงปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะเติบโตที่ 5.0% ในปี 2562 ส่วนปี 2563 จะขยายตัวที่ 5.1%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ออกรายงานเตือนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชียจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จากสารพัดปัจจัยลบทั้งความไม่สงบทางการเมือง เช่นกรณี การชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกง กรณีพิพาทจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อการการค้าและการลงทุนระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ตลอดจนภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนในอัตราที่เร็วกว่าคาด

ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะเติบโตที่ 5.0% ในปี 2562 ส่วนปี 2563 จะขยายตัวที่ 5.1% พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจเอเชียยังคงอยู่ในขาลงไปจนถึงปีหน้า

“ชางยอง รี” ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ขณะที่่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง การเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็เป็นไปอย่างเชื่องช้าที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินทั่วโลก ในบริบทของการขาดเสถียรภาพในระดับโลกซึ่งยืดเยื้อมานาน เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวพร้อมๆ กัน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งภูมิภาคเอเชียไม่ได้รับการยกเว้นสำหรับแนวโน้มดังกล่าว ในทางตรงกันข้ามอาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักด้วย

“โจนาธาน ออสทรี” รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของไอเอ็มเอฟ ให้ความเห็นว่า เนื่องจากเอเชียเป็นภูมิภาคที่เปิดกว้าง ทั้งยังต้องพึ่งพาภูมิภาคอื่นในด้านการค้า การลงทุน การผลิต และด้านอื่นๆ จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่าเอเชียจะต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้และปีหน้า ส่วนความตึงเครียดทางการค้าไม่เพียงสร้างผลกระทบโดยตรงในด้านภาษีเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงินด้วย และผลกระทบเหล่านี้ก็สร้างความเสียหายต่อการลงทุนและการเติบโต

รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไอเอ็มเอฟเพิ่งเผยแพร่คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนจะลดลงในระดับปานกลางอยู่ที่ 6.1% ในปีนี้ ส่วนในปี2563 คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 5.8% ซึ่งสะท้อนว่า จีนกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งยังสะท้อนผลกระทบเชิงลบของความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังดำเนินอยู่ด้วย

ล่าสุด วานนี้ (23ต.ค.)สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ขยายตัว 6.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.1%

สำหรับประเทศญี่ปุ่น ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 0.9% ในปี 2562 และลดลงอยู่ที่ 0.5% ในปี 2563 ส่วนประเทศอินเดีย ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 6.1% ในปีนี้ และขยายตัวเป็น 7.0% ในปีหน้า

รี ให้ความเห็นว่า แม้การเติบโตจะชะลอตัว แต่เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตทางเศรษฐกิจสูงสุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของการเติบโตทั่วโลกในปีนี้

“วัตถุประสงค์สำคัญที่สุดของนโยบายหลักคือการระบุสาเหตุของความไม่แน่นอนของนโยบาย และฟื้นฟูบรรทัดฐานของระบบการค้าพหุภาคี ขณะเดียวกัน นโยบายระยะใกล้ควรจะส่งเสริมการเติบโตในจุดที่จำเป็น แต่ก็ต้องปกป้องเสถียรภาพทางการเงินและงบประมาณไปด้วย” รี กล่าว

รายงานล่าสุดของไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีภูมิภาคเอเชียในปีนี้และปีหน้าไว้ดังนี้ เริ่มจากคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลีย จะขยายตัวที่ 1.7% ในปีนี้ ส่วนปีหน้าขยายตัว 2.3% โดยมองแง่ลบว่าเศรษฐกิจของแดนจิงโจ้จะ-0.4%ในปีนี้ และ -0.5% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจฮ่องกง ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่อัตรา 0.3% ในปีนี้ส่วนปีหน้าขยายตัวในอัตรา 1.5% ถือเป็นการหั่นคาดการณ์จีดีพีของฮ่องกงในปีนี้ -2.4% ส่วนปีหน้า-1.5%

157187425392

ส่วนญี่ปุ่น คาดว่าจะขยายตัว 0.9%ในปีนี้ ส่วนปีหน้าขยายตัว 0.5% ถือเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีนี้ 0.1% ส่วนปีหน้า0.0% ด้านนิวซีแลนด์ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.5%ในปีนี้และปีหน้าขยายตัวที่ 2.7% ถือเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีในปีนี้ 0.0% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีในปีหน้าที่ -0.2%

ขณะที่สิงคโปร์ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่าการขยายตัวของจีดีพีจะอยู่ที่ 0.5% ในปีนี้ และปีหน้าอยู่ที่ 1.0% โดยหั่นคาดการณ์จีดีพีสิงคโปร์-1.8%ในปีนี้และปีหน้้า-1.4% ส่วนเกาหลีใต้ คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.0% ในปีนี้ และปีหน้าขยายตัวที่อัตรา 2.2% ถือเป็นการหั่นคาดการณ์จีดีพีของเกาหลีใต้ในปีนี้-0.6% ส่วนปีหน้า-0.6%