'สมคิด' กล่อมนักลงทุนเซินเจิ้น ขนเทคโนโลยีดิจิทัล สตาร์ทอัพปักหลักลงทุนไทย
“สมคิด” กล่อมนักลงทุนเซินเจิ้น ขนเทคโนโลยีดิจิทัล สตาร์ทอัพปักหลักลงทุนไทย “กอบศักดิ์” ยกจุดเด่นไทยศูนย์กลางขยายตลาดได้400 ล้านคน บีโอไอชูแพคเกจไทยแลนด์พลัสเร่งลงทุน
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณะรัฐประชาชนจีน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดงานสัมนา “Strategic Partnership through the Belt and Road Initiative and the EEC” โดยมีนักธุรกิจจากเมืองเซินเจิ้นและมณฑลใกล้เคียงเข้าร่วมงานสัมนาประมาณ 500 คน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหัวข้อ “Strategic Partnership throught the Belt and Road Initiative and the EEC” ว่าการเดินทางมาเยือนเมืองเซินเจิ้น ครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์การค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะกับทางมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งปัจจุบันมณฑลกวางตุ้งได้พัฒนาก้าวหน้าไปมาก จนกลายเป็นต้นแบบการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนยุคใหม่ และเป็นผู้นำเชิงนวัตกรรม รวมทั้งเป็นแหล่งบ่มเพาะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ที่เป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ระดับโลกจึงชักชวนให้ไปลงทุนในไทย
“การมาครั้งนี้ถือว่าดีมากๆ ถูกที่ ถูกเวลาเพราะจีนกำลังย้ายฐานการผลิตและไทยมีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)เกิดขึ้นมารองรับ และเชื่อมโยง Belt and Road Initiative (BRI) พอดี”
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมตรีฝ่ายการเมือง กล่าวในหัวข้อ “Enhancing Thailand’s Compettitiveness - Improving Ease of doing business in Thailand” ว่าการลงทุนในไทยสามารถขยายตลาดไปยังประชากรในกลุ่ม CLMV และบังกลาเทศที่มีประชากรรวมกันกว่า 400 ล้านคนและมีเศรษฐกิจเติบโตในระดับ 7-8% และจะขายตัวในระดับนี้ไปอีก 15-20 ปี
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวใยหัวข้อ “Thailand Plus Package :Opportunities for Chinese Investors” ว่าไทยมีความพร้อมทั้งบุคคลากรคุณภาพ สภาพแวดล้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย การให้สิทธิ์ประโยชน์แรงจูงใจเข้ามาลงทุนกับอุตสาหกรรมไฮเทคที่ใช้เทคโนโลยีมากก๋จะมีการให้สิทธิประโยชน์มาก โดยบีโอไอต้องการให้นักลงทุนจากเซินเจิ้นเข้ามาลงทุนในสาขาเทคโนโลยีดิจิทัล และสตาร์ทอัพซึ่งเป็นสาขาที่ไทยกำลังเร่งรัดการพัฒนาและสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
โดยขณะนี้ประเทศไทยยังมีนโยบายไทยแลนด์พลัส เมื่อนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนจีนเข้าไปลงทุนในเทคโนโลยีโดยมาตรการส่งเสริมเร่งรัดการลงทุนบีโอไอมีนโยบายสนับสนุนการตัดสินใจการลงทุน โดยหากมีการเงินลงทุน 1,000 ล้านบาทขึ้นไปภายในปี 2564 จะได้รับสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มจากสิทธิ์พื้นฐานเพิ่มอีก 5 ปี โดยให้ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนภายในปี 2562 นอกจากนี้หากลงทุนในเขตอีอีซี เขตเศรษฐกิจชายแดน และพื้นที่ยากจนจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มเติมอีกเช่นกัน