KBANK - ซื้อ

KBANK - ซื้อ

ผลประกอบการ 3Q62: ไส้ในมีทั้งดีและแย่ปน ๆ กัน

Event

ประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศงบ 3Q62

lmpact

ผลประกอบการ 3Q62 ดีกว่าที่คาดไว้ 4% เพราะรายได้ค่าธรรมเนียม

กำไรสุทธิของ KBANK ใน 3Q62 อยู่ที่ 9.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% QoQ และ 2% YoY ดีกว่าประมาณการของเรา/consensus ประมาณ 4% เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมสูงเกินคาด ในขณะที่กำไรสุทธิงวด 9M62 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลประกอบการออกมาดีเกินคาดเป็นเพราะมีรายการพิเศษสองรายการ ได้แก่ 1.) กำไรจากการลงทุน 2.9 ไนล้านบาท 2.) นำกำไรพิเศษจากการลงทุนมากันสำรอง และ write-off หนี้เสีย

ยังคง write-off หนี้เสียจำนวนมากอยู่

หลังจากที่ write-off หนี้เสียไปถึง 9.2 พันล้านบาทใน 2Q62 แล้ว KBANK ยัง write-off หนี้เสียเพิ่มอีกถึง 8.1 พันล้านบาทใน 3Q62 โดยธนาคารจัดการแก้หนี้เสียโดยใช้กลยุทธ์การ write-off หนี้เสีย และบริหารจัดการหนี้เสียแบบ in-house ควบคู่กันไป เพื่อให้มั่นใจว่าสัดส่วน NPL จะอยู่ในช่วง 3.3-3.5% (ปัจจุบันอยู่ที่ 3.4%) แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของ KBANK ยังคงยืนยันว่า credit cost ในระยะยาวจะลดลงต่อเนื่องหลังจากที่มีการนำมาตรฐานบัญชี TFRS9 มาใช้ในปีหน้า

รายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมเร่งตัวขึ้น

เนื่องจากสินเชื่อขยายตัวเล็กน้อย 1% QoQ, 2% YTD, 5% YoY ดังนั้น NII จึงเร่งตัวขึ้นในไตรมาสนี้โดยเพิ่มขึ้น 1% QoQ และ 4% YoY ใน 3Q62 และเพิ่มขึ้น 6% ใน 9M62 ในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมและการบริการก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองที่ 3% QoQ และ 1%
YoY ใน 3Q62 โดยผู้บริหารบอกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้มาจากค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อ และ
ค่าธรรมเนียม AM เป็นหลัก (เช่นเดียวกับใน 2Q62)

Valuation and action

ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะเอื้อให้ธนาคารจัดการกับหนี้เสีย แต่เรามองว่าความสามารถในการหารายได้จากแหล่งอื่นมาชดเชยต้นทุนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของ KBANK ก็ยังนับว่าไม่เลว ทั้งนี้ เนื่องจากธนาคารกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ และภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นใน 4Q62 ดังนั้น เราจึงคิดว่าการที่ธนาคารมีสำรองส่วนเกินก้อนโตนั้นมากพอที่จะทำให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ในช่วงที่วัฏจักรเศรษฐกิจเป็นขาลงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากธนาคารสามารถรักษาการเติบโตของรายได้เอาไว้ได้ เรามองว่าการเติบโตปีหน้าจะยังมี upside อีก ทั้งนี้ เนื่องจากกำไรสุทธิงวด 9M62 คิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคา
เป้าหมายที่ 213 บาท

Risks

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น, NPL พลิกมาอยู่ในขาขึ้น และกันสำรองสูงเกินคาด