คาดฟื้นตัวหลังตอบรับปัจจัยลบปรับลดเป้าส่งออกวานนี้

คาดฟื้นตัวหลังตอบรับปัจจัยลบปรับลดเป้าส่งออกวานนี้

ทิศทางเงินทุนไหลเข้ามีกาสเป็นบวกจากลงนามข้อตกลงการค้า

ประธานาธิปดีสหรัฐฯ คาดสามารถลงนามข้อตกลงการค้าได้ราวกลางพ.ย. ที่การประชุม APEC ที่ชิลี โดยเปิดเผยการเจรจาคืบหน้าไปมาก ขณะที่เห็นสัญญาณจีนสั่งซื้อสินค้าเกษตรจาหสรัฐฯเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เราคงมุมมองว่าความตึงเครียดผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้ว และการบรรลุข้อตกลงการค้าในเฟส 1 จะส่งผลบวกให้เงินหยวนแข็งค่าหรือมีเสถียรภาพขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจยบวกต่อเงินทุนไหลเข้า

โอกาสแยกตัวไร้ข้อตกลงลดลง ไม่ว่าการแยกตัวของอังกฤษ (Brexit) จะเกิดใน 31 ต.ค.หรือไม่ แม้รัฐสภาอังกฤษจะยังไม่รับรองร่างข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันทำกับสหภาพยุโรป แต่ไม่ได้ปฏิเสธร่างดังกล่าวเพียงต้องการรอกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ ขณะที่ความเห็นผู้นำประเทศในยุโรปต่อการขยายเวลา Brexit ออกไปค่อนข้างผ่อนคลาย

มีโอกาสฟื้นตัวหลังตลาดตกใจการปรับลดยอดส่งออกวานนี้ ส่งออกก.ย.หดตัว 1.4% ยอด 9 เดือนลดลง 2.1% ทั้งนี้สถานการณ์ล่าสุดทำให้กระทรวงพาณิชย์จำต้องยอมปรับเป้าหมายส่งออกปี 2562 เหลือ 0-1% ขณะที่ปี 2563 เติบโต 1-2% ซึ่งเรามองการปรับลดลงของ SET Index วานนี้สะท้อนปัจจัยลบจากการปรับลดเป้าส่งออกและโอกาสที่กระทรวงการคลังจะปรับลด GDP ลงต่ำกว่า 3% แล้ว

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy หุ้น 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, BGRIM, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, STEC, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ SET Index ถอยถึงบริเวณแนวรับ 1617-1620 จุด ซึ่งเป็นระดับที่มีโอกาสฟื้นตัวสู่ 1635-1650 จุด เน้นหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่แพง และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก // หุ้นแนะนำวันนี้ CPN, “WHAUP / EPG* (เป้า 10, ตัดขาดทุน 7.20), SCB* (เป้า 117, ตัดขาดทุน 112)

แนวรับ 1617-1620 จุด / แนวต้าน : 1635-1643. สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

ปอนด์แข็งค่า รับคาดหวังเชิงบวกต่อกระบวนการ Brexit ตลาดเชื่อมั่นว่านายบอริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษจะสามารถผลักดันข้อตกลง Brexit ผ่านรัฐสภาอังกฤษได้ทันก่อนวันที่ 31 ต.ค. โดยโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดโอกาสเกิด No-Deal Brexit ลงเหลือเพียง 5% จากเดิมที่ 10%

BOJ ชี้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยังมีโอกาสผ่อนคลายการเงินต่อ ผู้ว่า BOJ กล่าวเปิดทางกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินเพิ่มขึ้น พร้อมระบุว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยังมีโอกาสเพิ่มความผ่อนคลายด้านนโยบายการเงินได้อีก แม้จะเริ่มมีข้อจำกัดก็ตาม

IMF คาดเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงต่อในปี 63 – IMF ประเมินเศรษฐกิจจีนปี 63 ชะลอตัวลงต่อสู่ระดับ 5.8% ต่ำกว่าอัตราการเติบโตในปี 61 และคาดการณ์ปี 62 ที่ระดับ 6.2% และ 6.1% ตามลำดับ จีนรับเป็นเรื่องปกติของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

เลื่อนเซ็น High-Speed Train เป็นวันที่ 24 ต.ค. รฟท.รับข้อเรียกร้องจากกลุ่มซีพีในการขอเลื่อนวันลงนามสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เร็วขึ้น 1 วัน เป็นวันที่ 24 ต.ค. ขณะที่ รมว.คมนาคมยืนยันยึดตามกฎหมายและ RFP

ตัวเลขส่งออก เดือน ก.ย.หดตัวต่อ สนค. รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย.หดตัว 1.39% ขณะที่นำเข้าหดตัว 4.24% ดันเกินดุลการค้า $1.275 พันล้าน

SCB – ตั้งสำรองปล่อยกู้ PACE เต็ม 100% แล้ว ทำให้การผิดนัดชำระของ PACE จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรและผลประกอบการ

ประเด็นติดตาม: 24 ต.ค. – ECB meeting /EU manufacturing PMI เดือน ต.ค., กลุ่ม CP นัดเซ็นสัญญา High-speed Train / 30 ต.ค. – FOMC meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)