'โปร' ลุ้นกลับเทรดกลางปีหน้า เล็งลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม

'โปร' ลุ้นกลับเทรดกลางปีหน้า เล็งลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม

"โปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999)" มั่นใจกลับเข้าเทรดอีกครั้งได้ช่วงกลางปีหน้า หลังเตรียมชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยงพอร์ตวันที่ 24 ต.ค.นี้ พร้อมหวังเล็งพิจารณาจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในงวดปี 63

นางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) บริษัท โปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) หรือ PRO เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าจะสามารถนำหุ้น PRO กลับเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อีกครั้ง (รีซูมเทรด) ในช่วงกลางปีหรือช่วงไตรมาส 3/2563 หลังจากปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด โดยคาดว่าจะดำเนินการยื่นขออนุญาตปลดเครื่องหมาย SP (ห้ามการซื้อขายหุ้นชั่วคราว) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ในช่วงเดือน มี.ค.2563 ภายหลังการประกาศงบการเงินปี 2562 แล้วเสร็จ

ขณะที่หาก PRO กลับมาซื้อขายได้ตามปกติ คาดว่าน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากผลงานบริษัทมีประสิทธิภาพดีขึ้นและเป็นเทรนด์ธุรกิจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรง ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนได้จากในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเปิดการซื้อขายหุ้นชั่วคราวในวันที่ 1-31 ก.ค.2562 พบว่าราคาหุ้นถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มอีกราว 7 ราย ซึ่งรวมกับ UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED เป็น 8 ราย โดยมีสัดส่วนถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติคิดเป็น 8% ของหุ้นทั้งหมด

“การล้างขาดทุนสะสมในรอบนี้ประโยชน์ที่ได้นอกจากเงินปันผลแล้วก็จะมีเรื่องของพาร์ของบริษัทที่เราถือโอกาสปรับเป็น 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งผู้ถือหุ้นสามารถใช้เปรียบเทียบผลงานกับตัวเองหรือหุ้นตัวอื่นๆได้ ซึ่งเวลานักลงทุนเข้ามาอ่านงบของบริษัทภาพของ PRO จะสวยและดูง่ายขึ้น”

นางสาววิไลลักษณ์ สกุลภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) หรือ PRO กล่าวว่าในวันที่ 24 ต.ค.นี้บริษัทเตรียมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติแผนการลดพาร์ในการล้างขาดทุนสะสม โดยปัจจุบันบริษัทยังขาดทุนสะสมอยู่ที่ 772 ล้านบาท ซึ่งหากผู้ถือหุ้นอนุมัติเห็นชอบคาดว่าจะล้างขาดทุนสะสมได้หมดและพลิกกลับมามีกำไรเป็นบวกได้ โดยหากผลการดำเนินงานดีขึ้นก็จะมีการพิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ 

โดยเบื้องต้นคาดว่าผลการดำเนินงานปีหน้าออกมาดีจะใช้งบปี 2563 ในการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเราคาดหวังให้เป็นอย่างนั้นให้ผู้ถือหุ้นมีกำลังใจ โดยหลังกลับเข้ามาเทรดได้เราคาดหวังหุ้นน่าจะไปในทางที่ดี เพราะผลประกอบการบริษัทเฉลี่ยกำไร 15% ของกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นอัตรากำไรที่ดีมากบริษัทหนึ่ง

“ถ้าเราล้างขาดทุนสะสมได้เรียบร้อยบริษัทก็จะยื่นเรื่องปลด SP ตามแผนทันที หลังจากที่ถูกหยุดเทรดมานานกว่า 7-8 ปี รวมถึงมีแผนพิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหากผลการดำเนินงานปี63 มีกำไรต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการจ่าเงินปันผลได้จริงจะถือว่าเป็นครั้งแรกนับจากบริษัทเข้าตลาดหุ้น”

นางสาววิไลลักษณ์ กล่าวต่อว่าส่วนผลประกอบการปีนี้ คาดว่ารายได้จะแตะระดับ 300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 274 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ในปี 2563 จะเติบโตกว่า 20% หรือแตะระดับ 360-400 ล้านบาท หลังแนวโน้มผลการดำเนินงานยังเติบโตได้ดี เพราะได้อานิสงส์จากกรณีภาครัฐให้ความสำคัญกับงานกำจัดขยะที่มีมาตรฐานมากขึ้น และยังได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC)