'โหรฟองสนาน' เปิด 'ดวงเมือง' รับมือห้วงอิทธิพลมฤตยูจร

'โหรฟองสนาน' เปิด 'ดวงเมือง' รับมือห้วงอิทธิพลมฤตยูจร

"โหรฟองสนาน" เปิด "ดวงเมือง" จิตใจคนเมืองรัตนโกสินทร์ภายใต้อิทธิพลมฤตยูจรรอบนี้

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ระหว่าง 6 มีนาคม 2559-8 กรกฎาคม 2565
ทับพระอาทิตย์ดวงเดิม (๑)-ตัวแทนจิตใจคนในเมือง

“ครั้นเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม 2565 แล้ว หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเมืองรัตนโกสินทร์มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร” คือข้อความที่ผู้เขียนเพียรบอกให้คนไทยทุกคนรับมือมฤตยู (0) ผู้อาเพศ ที่เข้ามาเดินในราศีเมษทับลัคนาเมือง คราวนี้เป็น รอบที่สาม นับตั้งแต่วางเสาหลักเมืองวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. หรือ 237 ปีที่ผ่านมา

โดยมฤตยูจรเริ่มเข้ามาเดินในราศีเมษอย่างจริงจังรอบนี้ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2559 เป็นต้นมา ที่แม้จะเดินมาได้เพียงค่อนทางของเจ็ดปี (มฤตยูจรไปอยู่ราศีใดจะอยู่นานเจ็ดปี) เมืองเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงมากมายในระดับไม่คิดว่าจะได้เห็นก็เห็น และผลกระทบอีกประการหนึ่งที่ต้องหาคำอธิบายทางโหรคือคนไทยเป็นทุกข์เป็นร้อน และกระทบกระเทือนกันมากทาง จิตใจอันเกิดจากการ ปะทะกันทางความคิดระหว่างคนในเมืองอย่างดุเดือดเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกไซเบอร์ จนอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ออกมาเตือน ให้ระวังวิกฤตการณ์รอบใหม่ของชาติก่อตัว-ระบบความคิดเห็น-คนกลุ่มอื่นเป็นศัตรู

ส่วนผู้เขียนก็อยากเตือนอีกแรงหนึ่ง เพราะชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า หนึ่งในเป้าหมายที่จะมีการเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติใหญ่ คือจิตใจของคนในเมืองรัตนโกสินทร์ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูจรมาตั้งแต่มีนาคม 2559 แล้ว

อธิบายโดยหลักโหรคือ ทุกดวงชะตาของคน รวมทั้งเมืองนั้นโหราศาสตร์สามารถบอกเรื่องราวต่างๆ ของชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายได้ 12 เรื่อง อีกทั้ง ยังสามารถบอกลักษณะจิตใจ หรือธาตุแท้ของเจ้าชะตาได้ด้วยว่าเป็นอย่างไร ที่รู้จักกันใน ชื่อตนุเศษ

อันว่าจิตใจ หรือตนุเศษนี้ ถือเป็น ฟันเฟืองเล็กๆ สำคัญที่มีส่วนกำหนดชีวิตของคนว่าจะนำไปสู่วิถีทางใด เพราะ เมื่อจิตใจเป็นเช่นไรก็ไปกำหนดการกระทำ เช่น

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษนั้น พระอาทิตย์ (๑) เป็นตัวแทนจิตใจ พื้นฐานจิตใจคนไทย จึงมักมีอาการของพระอาทิตย์คือ ใจดี ใจกว้าง แต่ใจร้อน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เป็นลูกน้องใครไม่ค่อยจะดี รักอิสระ รักเกียรติ อำนาจ ชื่อเสียง เชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุผลที่คัดค้านหรือตรงกันข้ามความคิดของตน แถมชอบครอบงำคนอื่นอีกด้วย คอยอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรมักเอาความใหญ่โตไว้ก่อน ฯลฯ ตามนิยามของพระอาทิตย์ ตัวแทนยศศักดิ์

นอกจากความเป็นพระอาทิตย์ที่ร้อนแรงในตัวเองแล้ว พระอาทิตย์ดาวจิตใจเมืองรัตนโกสินทร์นี้ยังสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ ได้มาตรฐานอุจ แปลว่าสูงเข้าไปอีก ยิ่งเพิ่ม อารมณ์ร้อนวู่วาม บางคราวขาดการควบคุมและยับยั้งชั่งใจ มากขึ้นอีก

พระอาทิตย์ดาวจิตใจนี้สถิตอยู่ร่วมกับลัคนาเมืองที่ราศีเมษ จิตใจจึงร่วมกับตัวตน (ลัคนา) ทำให้คนไทยเป็นประเภทเปิดเผย จริงใจ คิดสิ่งใดทำสิ่งนั้น คิดคำนึงถึงเมืองก่อนเรื่องอื่น

เมื่อรู้จัก พื้นฐาน จิตใจของคนในเมือง (โดยภาพรวมแล้ว) ในแต่ละช่วงเวลาจิตใจนี้ก็ผันแปรไปตามอิทธิพลของดาวต่างๆ ที่ทำมุมกับจิตใจของคนในเมือง เช่น

ตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 เป็นต้นมา เมื่อมฤตยูจรเจ้าของภัยอาเพศ-การปฏิวัติใหญ่มาทับลัคนาเมือง นั่นคือ จิตใจของคนในเมืองที่อยู่ร่วมลัคนาก็พลอยถูกอิทธิพลของมฤตยูจรทับเข้าเต็มที่เหมือนกัน

ลองมาดูความหมายบางส่วนของมฤตยูที่เกี่ยวเนื่องกับการปะทะกันทางความคิดในเมืองขณะนี้ คือเป็นตัวแทนนักปฏิวัติ-การปฏิวัติที่ไม่พอใจสิ่งเก่าๆ และต้องการให้เกิดสิ่งใหม่ ทำให้กลุ่มคนที่ไม่ยอมรับมองนักปฏิวัติกลุ่มนี้เป็น พวกวิตถาร และ ถูกรังเกียจ

ฉะนั้นจึงอย่าได้แปลกใจ ที่ตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 มาแล้ว ที่จิตใจของคนในเมืองรัตนโกสินทร์สุมความขัดแย้ง เพราะมฤตยูอย่างร้อนแรงระหว่างคนสองกลุ่ม คือกลุ่มแรกที่ถูกเรียกว่าเก่า-คร่ำครึ-มนุษย์ป้า-มนุษย์ลุง กับอีกกลุ่มที่ถูกมองว่าเป็นพวกวิตถาร-หัวร้อน-ล้ำยุค-ไร้ราก-บ้าประชาธิปไตย ที่กำลังสู้กันอย่างร้อนแรงในสังคมขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกไซเบอร์ชนิดไม่มีใครยอมใครและฟังใคร

วิธีสังเกตการทำงานของมฤตยูคือ ก่อนที่จะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่เรื่องอะไร จะมีการ สุมพลังขัดแย้งกันระหว่างเก่า-ใหม่ จนได้ที่แล้วระเบิดออกมาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ในเรื่องนั้นแล้วเริ่มต้นสุมพลังเพื่อระเบิดต่อเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย

โดยนัยนี้อาการของจิตใจของคนในเมืองดูได้จากการสั่งสมความเบื่อหน่ายการเมือง นักการเมืองเก่าที่สู้กันมานาน จนจิตใจประชาชนบางส่วนพร้อมจะเดินหน้ารับสิ่งใหม่ นักปฏิวัติใหม่แบบพรรคอนาคตใหม่ จึง ขี่มฤตยู มา อวดโฉมล็อกถล่ม-เหลือเชื่อ

คำถามคือ แล้วอะไรคือ ผลลัพธ์ด้านจิตใจ ของคนในเมืองที่เกิดจากมฤตยูจรรอบนี้ที่รออยู่ เมื่อเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครกลางปี 2565? คำตอบนี้ เมื่อนั้นอิทธิพลของมฤตยูจรต่อจิตใจคนไทยรอบนี้จะหมดไป เหลือไว้แต่ผลจากการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในจิตใจคนไทย ซึ่งคาดว่าคงจะทันและล้ำสมัยมากๆ แต่ผู้เขียนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไร ทำได้แต่เพียงอาศัยปูมโหร-เกร็ดประวัติศาสตร์จากจากไล่ย้อนดู อาการของมฤตยูที่มาทับทั้งลัคนาและจิตใจของเมือง ในอดีตมานำเสนอพอเป็นแนวทางเลาๆ คือ

1.ผู้เขียนเชื่อว่าการมาของมฤตยูรอบนี้เหมือนคราวที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต แล้วพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ อันเป็นระยะเจ็ดปีแรกที่ประเทศเริ่มเข้าสู่ความทันสมัย หรือตะวันตกเป็นครั้งแรก หลังจากที่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นมา โดยสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำเอง

2.แม้จะมีการต่อสู้กันทางความคิดอย่างดุเดือดระหว่างสองขั้วในเมืองขณะนี้ แต่ผู้เขียนไม่เชื่อว่าการมาถึงของมฤตยูรอบนี้จะไม่เป็นเช่นช่วงเริ่มปฏิวัติสยาม 2475 ที่ในระยะเจ็ดปีนั้นได้ นำพาสิ่งใหม่ที่คนไทยไม่คุ้นเคยมาสู่เมือง ตั้งแต่รัฐธรรมนูญที่ชาวบ้านบางส่วนไม่รู้จักบอกเป็นลูกพระยาพหลฯ-นายกรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรี-เลือกตั้ง-ปฏิวัติ-กบฏ ฯลฯ เพราะหากจะเป็นเช่นนั้นต้องมีเกณฑ์ร้ายทางโหรอื่นร่วมด้วย

ฉะนั้นไม่ว่าขณะนี้การต่อสู้กันทางความคิดจะรุนแรงเพียงใดแต่ผู้เขียนยังเชื่อว่ารอบนี้พลังด้านบวกของมฤตยู ที่มาจากภพลาภะ-อันหมายถึงโชคลาภและความสำเร็จในเมือง และยังตั้งอยู่ในจุดที่ทำให้เมืองเข้มแข็งในดวงเดิม (สถิตในราศีมิถุน-โยคหน้าลัคนาเมือง) จะออกผลด้านดีมากกว่าร้าย

แต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่คนในเมืองแล้วว่า จะช่วยกันอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้ง-ต่อสู้กันทางความคิดบานปลายเป็นวิกฤติดังที่อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี เตือนไว้ เพราะหากจัดการดี อนาคตที่จะมี เรื่องดีมากกว่าร้าย และ ความรุ่งโรจน์ของเมือง รออยู่ตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นไป คือหลังจากมฤตยูจากราศีเมษไปแล้ว

ดังจะได้ค้นคว้าปูมโหร-ประวัติศาสตร์เพื่อออกคำทำนายล่วงหน้าถึงอนาคตประเทศไทยเจ็ดปีหลังกรกฎาคม 2565 มาให้ทราบต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-'โหรฟองสนาน' ชี้ลัคนาราศีมังกร กลั่นพละกำลังสู้แรง

-'โหรฟองสนาน' ชี้คนลัคนาราศีกุมภ์ เข้าสู่วาระฟุ่งเฟือง

-'หมอช้าง' เผย 2 ราศีงานรุ่งพุ่งเข้าเป้า

-'โหรฟองสนาน' เปิดทำนาย ระหว่าง 30 ต.ค.62-1 มี.ค.63