ปตท. ลั่นพร้อมปรับสเปก บี100 สู่มาตรการ ดีเซล บี10

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ปตท.ได้ตามรอยโครงการพระราชดำริด้านเชื้อเพลิงชีวภาพของในหลวงรัชกาลที่9 โดยได้พัฒนาน้ำมันไบโอดีเซลมาตามลำดับ จากเดิมที่ประเทศไทยเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันดีเซลถึง 90% ก็เริ่มน้ำไบโอดีเซลมาผสม เป็น ดีเซล บี2,บี3,บี5และบี7 ซึ่ง ปตท.ก็เป็นกลไกของภาครัฐที่เข้าไปเริ่มจัดจำหน่ายดีเซล บี2 ตั้งแต่ปี 2548 และขยับขึ้นตามลำดับจนถึง บี10 ในปัจจุบัน ที่เริ่มจำหน่ายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มจำหน่าย บี10 ปตท.ได้เตรียมความพร้อมมาสักระยะในการทดสอบประสิทธิภาพของ บี10 ซึ่งทางสถาบันวิจัยของ ปตท.ได้นำไปทดสอบและใช้กับรถยนต์ในการขับเคลื่อนบนถนนในประเทศไทยจริง โดยพบว่า การใช้บี10 ช่วยลดการเกิดปัญหาควันดำได้ 40% และเที่ยบเท่าการลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลงได้ 300 ตันต่อปี ซึ่งในด้านสมรรถนะต่อเครื่องยนต์ก็ไม่เป็นปัญหา อีกทั้ง การปรับสเปก บี7 ไปสู่ บี10 ที่กำหนดให้ลดปริมาณโมโนกลีเซอไรด์ หรือไขให้ต่ำลง จากเดิมไม่สูงกว่า 0.7% ปรับเป็นไม่สูงกว่า 0.4% ยิ่งจะไม่ส่งปัญหาต่อการเกิดไข แต่ยอมรับว่า มีผลต่อต้นทุนเพิ่มขึ้น และต้องใช้เวลาในการทยอยล้างถังเก็บ บี100 ที่เป็นสเปก บี10 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปตท. พร้อมที่จะปรับสเปก บี100 ที่มีปริมาณโมโนกลีเซอไรด์ ไม่สูงกว่า 0.4% โดยยตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป คลังน้ำมันที่พระโขนง จะเป็นสเปก บี10 ซึ่งจะทำให้น้ำมันดีเซลทั้ง บี7 และบี10 ของ ปตท. จะมีปริมาณโมโนกลีเซอไรด์ ไม่สูงกว่า 0.4% เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะลดการเป็นไขลงได้

“ปัจจุบัน ปตท.มีปั๊มที่ขาย บี10 แล้ว 60 แห่ง ภายในเดือนม.ค.ปีหน้า จะกระจายขาย บี10 ให้ทั่วประเทศ และเดือนมี.ค.ปีหน้า ปตท.จะขาย บี10 ครบทุกปั๊ม ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า บี10 จะมีขายแน่นอนทั่วประเทศ และขณะนี้ราคาถูกกว่าบี7 อยู่ที่ 2 บาทต่อลิตรด้วย”