BGRIM - ถือ

BGRIM - ถือ

ประมาณการ 3Q62: Margin ฟื้น

Event

ประมาณการ 3Q62

lmpact

กำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q62F จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ BGRIM ใน 3Q62 จะอยู่ที่ 686 ล้านบาท (+66.2% YoY, +23.1%QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจาก i) กำลังการผลิตใหม่ (SPP1, Solar Vietnam) และยอดขาย IU ที่เพิ่มขึ้นที่ ABPR3-5 ในขณะที่กำไรที่ฟื้นตัวขึ้น QoQ จะมาจาก i) อานิสงส์ของต้นทุนก๊าซที่ลดลง (-2.2% QoQ) ii) การรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มไตรมาสของโครงการ Solar Vietnam (437Mwe) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam Che (11Mwe) เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q62 จะอยู่ที่ 19.6% (จาก 18.5% ใน 3Q18,18.1% ใน 2Q62) เนื่องจากราคาก๊าซเปลี่ยนแปลงไป (+0.8% YoY, -2.2% QoQ) เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะอยู่ที่ 370 ล้านบาท (+11.9% YoY ,-10.9% QoQ) เนื่องจากไม่มีต้นทุนในการกันสำรอง (49 ล้านบาท) และคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 732 ล้านบาท (+2.2% YoY, -7.8% QoQ) แต่หากรวม
รายการพิเศษด้วย เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q62 จะอยู่ที่ 736 ล้านบาท (-7.4% YoY, +17.6% QoQ)

คาดว่าสัดส่วนหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ (IBD/E) จะลดลงจาก 1.7x เหลือ 1.4x

BGRIM มีแผนจะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธ์ิแบบไม่มีกำหนดอายุ (subordinated perpetual debenture) มูลค่า 6 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วนภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิลดลงจาก 1.7x เหลือ 1.4x ในปี 2562  ทั้งนี้ บริษัทยังมีโอกาสที่จะกู้เพิ่มได้อีก 5 หมื่นล้านบาทเมื่ออิงจากข้อกำหนดหุ้นกู้ที่ 3.0x ของ IBD/E หรือเท่ากับ 2,360 MW อิงจาก i) ต้นทุนการลงทุนที่ 30 ล้านบาท/MW ii) โครงสร้างการลงทุน(หนี้ : ทุน 70: 30) ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 5,000MW จากปัจจุบันที่ 3,245MW

มีโอกาสการลงทุนในต่างประเทศอีกหลายโครงการใน 4Q62-2563

โอกาสการลงทุนใหม่ ๆ อย่างเช่น i) โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในเกาหลีใต้ (30-35MW) ii)โครงการพลังงานลมในเวียดนาม (50-200MW) iii) โครงการโรงไฟฟ้าพลังก๊าซในมาเลเซีย (200MW) และ iv) โครงการ solar ในฟิลิปปินส์ (50-100MW) ทั้งนี้ โครงการพลังงานลมในเกาหลีใต้น่าจะเกิดใน 4Q62 ในขณะที่โอกาสการลงทุนโครงการอื่นๆ จะอยู่ในปี 2563 ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายของเรามี upside (0.5-1.0 บาท/หุ้น จากโครงการพลังงานทดแทน, 2-3 บาท/หุ้นจากโครงการในมาเลเซีย)

Valuation & Action

เราปรับลดคำแนะนำหุ้น BGRIM จาก ซื้อ เป็น ถือ เนื่องจากเหลือ upside จำกัดและ ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2563 ของเราที่ 48.00 บาท แต่เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q62 น่าจะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจาก i) ต้นทุนค่าก๊าซของโรงไฟฟ้า SPP จะลดลง ii) ยอดขายไฟฟ้าให้ กฟผ. จะเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยยอดขายที่หายไปใน 2Q62 เนื่องจาก กฟผ. มีการปิดซ่อมบำรุงสายส่งตามแผน

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, เกิดเหตุไฟฟ้าดับ, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่