การลดดอกเบี้ยของเฟดช่วยจำกัด downside ระหว่างรอข้อสรุปสงครามการค้าและ Brexit

การลดดอกเบี้ยของเฟดช่วยจำกัด downside ระหว่างรอข้อสรุปสงครามการค้าและ Brexit

อังกฤษมีมติเลื่อนการตัดสินใจข้อตกลง Brexit

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงมติสนับสนุนการแปรญัตติให้เลื่อนการตัดสินใจรับรองข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ไปจนกว่าจะมีการผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ส่งหนังสือขอเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไปเป็น 31 ม.ค.63 (จาก 31 ต.ค.62) แต่ยังพยายามจะเสนอให้รัฐสภาลงมติอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เป็นไปตามกำหนดเดิม ซึ่งเราประเมินแม้ Brexit มีโอกาสเลื่อน แต่รัฐสภาอังกฤษ ไม่ได้ปฏิเสธแผน ทำให้น่าจะปิดความเสี่ยงเรื่องแยกตัวโดยไม่มีข้อตกลงไปได้

พ.ร.บ.รายจ่ายฯ ปี 63 ผ่านวาระแรก ด้วยคะแนนเสียง 251 เสียง งดออกเสียง 234 ไม่ลงคะแนน 1 อย่างไรก็ตามวาระแรกเป็นเพียงหลักการเท่านั้น ขั้นตอนจากนี้ยังมีการแปรญัติ และกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกว่างบประมาณจะเข้าสู่ระบบใช้เวลาอีกราว 5 เดือน หรือประมาณไตรมาส 2/63 ดังนั้นเศรษฐกิจจะไร้แรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐในช่วง 2 ไตรมาส จากนี้

ผลประกอบการกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ดีกว่าคาด จากกำไรจากการลงทุนที่ดีกว่าคาด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงเร็ว ทำให้ธนาคารมักจะขายล็อคกำไรจากการลงทุนในตราสารหนี้ ขณะที่ KTB กำไรแย่กว่าคาดจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานจำนวนมากในไตรมาส 3/62 ที่ผ่านมา

การลดดอกเบี้ยของเฟด ช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลง แม้ประเด็น Brexit และสงครามการค้าอาจจะผันผวนก่อนได้ข้อสรุป แต่การลดดอกเบี้ยของเฟดที่น่าจะเกิดในช่วงปลายเดือน จะช่วยจำกัดความเสี่ยงของตลาดภาพใหญ่อีกทาง

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy หุ้น 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, BGRIM, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, STEC, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ผันผวนระหว่างทางแต่ภาพรวมยังเป็นการเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1635-1650 จุด เน้นหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่แพง และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก // หุ้นแนะนำวันนี้ CPN, WHAUP / EPG* (เป้า 10, ตัดขาดทุน 7.20), RJH (เป้า 30, ตัดขาดทุน 25.25)

แนวรับ 1624 จุด / แนวต้าน : 1635-1643. สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

คลังชงลดค่าธรรมเนียมอสังหาฯ เตรียมเสนอรัฐบาลอนุมัติลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองบ้านเหลือ 0.01% เป็นเวลา 6 เดือน และขยายราคาบ้านที่เข้ามาตรการเป็นไม่เกิน 3 ล้านบาท จากเดิมบ้านเอื้ออาทรได้สิทธิ์ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท

สอท.ปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปี 62 สอท.ปรับลดยอดการผลิตรถยนต์ปี 62 ลงสู่ 2 ล้านคัน จากเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 2.15 ล้านคัน จากเศรษฐกิจชะลอตัว

ชงลดภาษีแบรนด์เนมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสนอกระทรวงการคลังลดภาษีสินค้าแบรนด์เนมจาก 30% เหลือ 5%

CKP – 29 ต.ค.เริ่มจ่ายไฟ (COD) โรงไฟฟ้าไซยะบุรี อยู่ระหว่างเจรจาโรงไฟฟ้าพลังงานในลาวเพิ่มเติม

TMB-T1 ซื้อขายวันสุดท้าย 24 ต.ค.62 (SP 25 ต.ค.) ราคาใช้สิทธิ์ 1.40 บาท

PACE แจ้งเรื่องการได้รับหนังสือแจ้งผิดนัดชำระหนี้ของ PACE จากธนาคารไทยพาณิชย์

ประเด็นติดตาม: 24 ต.ค. – ECB meeting /EU manufacturing PMI เดือน ต.ค., 25 ต.ค.กลุ่ม CP นัดเซ็นสัญญา High-speed Train / 30 ต.ค. – FOMC meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)