‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.28 บาทต่อดอลลาร์

มีความไม่แน่นอนเบร็คซิทกลับมากดดันเงินปอนด์อีกครั้ง เงินบาทเผชิญแรงขายนักลงทุนต่างประเทศ พร้อมจับตาความผันผวนตลาดทุนสหรัฐในสัปดาห์นี้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.28 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีอังกฤษยื่นจดหมายบขอเลื่อนการพิจารณาข้อตกลงBrexit ระหว่างสหราชอาณาจักร(UK) กับสหภาพยุโรป(EU) ออกไปถึงวันที่31 มกราคมปีหน้าส่งผลให้ความไม่แน่นอนเรื่องBrexit จะกลับมากดดันเงินปอนด์อีกครั้งโดยเราเชื่อว่าจุดสูงสุดของเงินปอนด์ครั้งนี้จะเป็นแนวต้านใหม่ขณะที่ในระยะยาวข้อตกลงล่าสุดที่ทางUK และEU กำลังต่อรองอยู่ถือว่าไม่ดีกับเศรษฐกิจขณะที่หลายบริษัทในอังกฤษก็เข้าสู่โหมดเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นแล้ว

ขณะเดียวกันก็จะมีการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรปหรือECB ในวันที่24 ตุลาคมเป็นครั้งสุดท้ายของนายมาริโอดรากี้โดยรวมเราเชื่อว่าECB จะ“คง”นโยบายการเงินทั้งหมดในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าECB จะไม่ใช้เพียงนโยบายการเงินแต่จะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปด้วยนโยบายทางการคลังระหว่างประเทศ

นอกจากนั้นระหว่างสัปดาห์ก็ต้องระวังการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐซึ่งในช่วงที่ผ่านมาแม้กำไรส่วนใหญ่จะออกมาดีกวาคาดแต่กลับเป็นการกดดันให้ตลาดปรับฐานเนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเมื่อดัชนีS&P500 เข้าใกล้จุดสูงสุดเก่า

ส่วนของเงินบาทช่วงสั้นมีแรงขายจากผู้ค้าต่างประเทศกลับมากดดันเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนโยบายที่คาดว่าจะใช้ในการควบคุมความเคลื่อนไหวขณะเดียวกันสกุลเงินเพื่อนบ้านก็เริ่มปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แล้ว

ในสัปดาห์นี้เรามองความผันผวนของตลาดทุนสหรัฐเป็นปัจจัยหลักที่จะกำหนดทิศทางเงินบาทถ้าผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐยังแข็งแกร่งก็อาจเห็นดอลลาร์ทรงตัวได้พร้อมกับบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ10ปีที่จะไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ1.75% แต่ในทางกลับกันถ้าบริษัทเทคโนโลยีเริ่มแสดงให้เห็นถึงกำไรที่ชะลอตัวก็อาจมีแรงเทขายดอลลาร์ตามมาเพราะความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะต้อง”ลด”ดอกเบี้ยทันทีในการประชุมสิ้นเดือนนี้