‘บินไทย’เล็งเลิก 6 เส้นทางอินโดจีน

‘บินไทย’เล็งเลิก 6 เส้นทางอินโดจีน

“บินไทย”ปรับแผนลดต้นทุนเล็งปิดเส้นทางบินกลุ่มอินโดจีน6 เส้นทางให้ไทยสมายล์บริการแทนรับแข่งขันตลาดเดือดกดราคาตั๋วลดฮวบ 15% ลั่นปีหน้าลุยขายตั๋วธุรกิจตั้งเป้าเพิ่ม งดดัมพ์ราคาสู้ศึกการบินต้นทุนต่ำ

       นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การแข่งขันของอุตสาหกรรมการบินในขณะนี้ พบว่าทุกสายการบินแข่งขันด้านราคาหนักมาก ซึ่งในส่วนของการบินไทยเองก็ต้องปรับตัวแข่งขันด้วย เพื่อแย่งยอดจองการเดินทาง จึงจะเห็นการทำโปรโมชั่นราคาพิเศษตลอดทั้งปี

 

        อย่างไรก็ตามทิศทางการทำธุรกิจในปีหน้า การบินไทย จะไม่เน้นออกโปรโมชั่นลดราคาแล้ว เพราะถือว่าปีนี้ทำราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา หากไม่ได้รับการตอบรับที่ดี ก็คงจะต้องปรับตัวไปใช้กลยุทธ์ด้านอื่น เช่น เพิ่มพันธมิตรตั๋วองค์กร เพิ่มการขายช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าที่มีการเดินทางสม่ำเสมอ

 

        รายงานข่าวจาก บมจ.การบินไทยเปิดเผยว่าแนวโน้มรายได้ปีนี้ของการบินไทย คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย แม้ว่าจำนวนผู้โดยสารในภาพรวมจะเป็นไปตามเป้าหมาย เหตุเพราะในช่วงปีที่ผ่านมา ราคาตั๋วโดยสารลดต่ำลงราว 15% จากปัญหาภาวะเศรษฐโลกชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็งค่า สงครามการค้า ทำให้แต่ละสายการบินแข่งขันกันลดราคา

 

         โดยการบินไทยอยู่ระหว่างเร่งรัดแผนลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดทุนโดยมาตรการสำคัญที่จะนำมาใช้ คือการพิจารณาปิดเส้นทางบินที่มีผลประกอบการขาดทุน เพื่อลดภาระขาดทุน และนำเครื่องบินที่บินในเส้นทางขาดทุนไปบินในเส้นทางที่มีกำไรดีกว่าโดยอยู่ระหว่างศึกษาปิดเส้นทางบินในประเทศกลุ่มอินโดจีน ได้แก่ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา ที่เปิดให้บริการทั้งหมด 6 เส้นทางบิน คือ สุวรรณภูมิ-เวียงจันทร์, สุวรรณภูมิ-หลวงพระบาง, สุวรรณภูมิ-พนมเปญ ,สุวรรณภูมิ-ฮานอย, สุวรรณภูมิ-โฮจิมินท์ และสุวรรณภูมิ-ย่างกุ้ง เนื่องจากจุดบินเหล่านี้ ปัจจุบันมีการให้บริการเที่ยวบินที่น้อยอยู่แล้วและอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิ้นแฟกเตอร์) ก็อยู่ในระดับต่ำโดยภายหลังที่การบินไทยปรับแผนยกเลิกทำการบินในเส้นทางอินโดจีนแล้ว จะรักษาเส้นทางดังกล่าวเอาไว้โดยให้สายการบินไทยสมายล์บินในเส้นทางดังกล่าวแทน

 

157157689090

         สำหรับปี 2563 การบินไทยเตรียมปรับแผนการจำหน่ายตั๋วโดยสารโดยจะเน้นการขายตั๋วองค์กรมากขึ้น ซึ่งจะแบ่งออกเป็นราชการ และภาคธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันรายได้จากการขายตั๋วองค์กรราว 80-90% มาจากหน่วยราชการ สร้างรายได้การบินไทยปีละ 1,500 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชนยังมีสัดส่วนน้อย ดังนั้นในปี 2563 จะเน้นเพิ่มการขายตั๋วภาคธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการเดินทางตลอดทั้งปี และมีการซื้อตั๋วประเภทธุรกิจและเฟิร์สคลาสที่มีราคาสูง โดยตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าภาคธุรกิจให้เพิ่มขึ้นอีก 20%โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ที่การบินไทยยังไม่ได้เซ็นสัญญาด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-'การบินไทย' แจงโพสต์ 'วรวรรณ' ยันมาตรฐานพรีเมียม

-การบินไทยเร่งขนส่งผู้โดยสารเส้นทางญี่ปุ่น

-การบินไทย เร่งส่งผู้โดยสารตกค้างกรุงเทพ

-การบินไทย ปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินของเที่ยวบินไปญี่ปุ่น

-'กรณ์' ชี้ 'การบินไทย' วิกฤตแล้ว ทำไมต้องอุ้มด้วยเงินภาษีปชช.