ได้เวลา"เงินเย็น"ช้อปบ้าน-คอนโด!!

ได้เวลา"เงินเย็น"ช้อปบ้าน-คอนโด!!

วันก่อนศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดตัวเลขค่อนข้างน่าตกใจ ต่อภาพรวมสถานการณ์ธุรกิจที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 โดยระบุว่า มีที่อยู่อาศัยระหว่างการขายทั้งหมด (Total Supply) มากถึง195,763 หน่วย

ในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขาย (สต็อก) 152,149 หน่วย ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี ที่อยู่ที่ 138,720 หน่วย ขณะที่อัตราดูดซับ (ระยะเวลาการขาย)นับว่าต่ำสุดในรอบ 5 ปี หรือพูดง่ายๆคือ ของขายได้ช้าลงในรอบ 5 ปี !!

สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่หดหาย ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แน่นอนผลกระทบดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักพัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ ซึ่งอาจกระทบไม่มากเท่ารายกลางรายเล็ก ที่มีสภาพคล่องน้อยกว่า ผลกระทบยังเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมสับสนุน ไล่มาตั้งแต่ ผู้รับเหมา ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ที่โดดกันหลายต่อเป็นห่วงโซ่อุปทาน (ซัพพลายเชน) 

เมื่อของเหลือในสต็อกมาก !! กลายเป็น “โอกาสในวิกฤติ” สำหรับคนที่มี “เงินเย็น” ที่มีความต้องการ ซื้อที่อยู่อาศัย “ช่วงไตรมาสสุดท้าย”ของปีนี้ ต้องบอกเลยว่า เป็น Golden periodที่จะต้องรีบตักตวง เพราะผู้ซื้อจะมีอำนาจต่อรองสูงกว่าช่วงปกติมากโข เพราะผู้ประกอบการอสังหาฯไม่มีใครอยาก“แบกสต็อก”ไว้นานๆ เนื่องจากมี “ภาระการเงิน”ต้องสะสางจากหนี้ที่กู้มาลงทุน สู้ยอม “หั่นกำไร” แต่ขายของออกให้ไวดีกว่า 

สังเกตจากแคมเปญ โปรโมชั่น ที่ตอนนี้แต่ละค่ายอสังหาฯเข็นออกมา ไปดูกันเอาเองว่าน่าจูงใจแค่ไหน เช่น การเสนอราคาขายต่อตารางเมตร ที่ต่ำกว่าราคาตลาดบ้างล่ะ คล้ายๆจะเล่นสงครามราคากันเลยทีเดียว

ว่าไม่ได้ ชั่วโมงนี้ นานๆจะโอกาสของผู้ซื้อ ทว่า การลงทุนมีความเสี่ยง นอกจากราคาถูกแล้ว สิ่งที่ผู้ซื้อต้องคำนึงถึง ไม่พ้นเรื่องทำเล ความพร้อมเรื่องระบบสาธารณูปโภคต่างๆ แบรนด์อสังหาฯ ความน่าเชื่อถือของโครงการ

ที่สำคัญ เลือกที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมโอน!! มีดาษดื่นตอนนี้ ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่า จองแล้ว ดาวน์แล้ว แต่โครงการไม่สร้าง...ให้ปวดใจ !!