'แม่ธนาธร' ยืนยัน 8ม.ค. จ่ายเช็คซื้อหุ้นคืน เมียแจงกรณีขึ้นเช็คขายหุ้นล่าช้า

'แม่ธนาธร' ยืนยัน 8ม.ค. จ่ายเช็คซื้อหุ้นคืน เมียแจงกรณีขึ้นเช็คขายหุ้นล่าช้า

"แม่ธนาธร" ยืนยัน 8 ม.ค. จ่ายเช็ค 2 ใบ ซื้อหุ้นคืน ด้านเมียแจงกรณีขึ้นเช็คขายหุ้นล่าช้า เหตุดูแลลูกคนเล็กที่พึ่งคลอดได้ 3 เดือน จึงไม่ได้นึกถึง


บรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญในช่วงที่ 2 ของการสืบพยานในคดีที่คณะกรรการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีการถือครองหุ้นในธรุกิจสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ระหว่างการลงสมัครรับเลือกตั้ง


โดยศาลได้เชิญนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ของนายธนาธร มาให้ปากคำ ซึ่งศาลได้สอบถามถึงเหตุการณ์ในวันที่ 8 มกราคม ที่เป็นวันโอนหุ้น โดยนางสมพร กล่าวว่า ตนทราบตามข่าวว่าวันนั้นนายธนาธรอยู่จังหวัดบุรีรัมย์ และจะกลับมาในช่วงเย็นเพื่อโอนหุ้นสื่อตามที่ได้มีการนัดหมายกันไว้ ซึ่งเมื่อตนเองมาถึงบ้านทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มากันพร้อมแล้ว ซึ่งตนเองได้ซื้อหุ้นคืนจากนายธนาธร และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยานายธนาธร โดยจ่ายเช็คไป 2 ใบ ซึ่งเป็นการเตรียมมาแล้ว ไม่ได้เซ็นต์ในเหตุการณ์


พร้อมกันนี้ได้มีตุลาการคนอื่นถามนางสมพรต่อไป ว่า เพราะเหตุใดจึงโอนหุ้นให้นายธนาธร โดยนางสมพร กล่าวว่า หลังจากที่มีการตั้งบริษัทมาสักระยะ ก็ได้มีการให้ นางรวิพรรณเข้ามาบริหาร และในปี 2555 ได้เปลี่ยนชื่อจากบริษัทโซนิค เป็น บริษัท วีลัค แต่ในขณะที่ตนบริหารผลประกอบการไม่ดี แต่เมื่อนางรวิวรรณเข้ามาบริหาร ผลประกอบการก็ดีขึ้น จึงคิดที่จะโอนหุ้นให้การลูกหลาน แต่เมื่อมีการโอนกลับมาให้ตนเอง ก็ได้มีการโอนให้หลานชาย 2 คนเป็นผู้รับผิดชอบต่อ โอนเป็นการโอนให้ไม่ได้เป็นการซื้อขาย แต่เมื่อผลประกอบการไม่เป็นที่น่าพอใจจึงมีการตกลงกันว่าจะเลิกกิจการนี้ แต่ขณะนั้นได้มีการรับงานมาจากบริษัทนกแอร์ ซึ่งเล่มสุดท้ายจะอยู่ในช่วงตุลาคม หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดการในเอกสารต่างๆและมีการประชุมเพื่อบอกยกเลิกกิจการอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม

การสืบพยานของศาลรัฐธรรมนูญ คนต่อมา ภรรยาของนายธนาธร นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ศาลได้สอบถามถึงเหตุการณ์ในวันที่เซนต์สัญญาซื้อขายหุ้น โดยนางรวิพรรณ ได้ให้การตรงกันกับพยานก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ศาลได้ถามถึงการขึ้นเช็คขายหุ้นล่าช้า นางรวิพรรณ กล่าวว่า การขึ้นเช็คของทางนายธนาธรและตนเองเมื่อหลังจากได้รับเช็ควันที่ 8 มกราคม แล้วนั้นก็เก็บใส่กระเป๋าไว้ ประกอบกับช่วงนั้นตนได้ดูแลลูกคนเล็กที่พึ่งคลอดได้ 3 เดือน จึงไม่ได้นึกถึง และไม่ได้รีบร้อนที่จะไปขึ้นเงิน จนกระทั่งมีกระแสข่าวเรื่องการโอนหุ้นสื่อออกมา จึงนำเช็คให้ทนายไปชี้แจง ต่อกกต.ในเดือนเมษายน และนำกลับมาขึ้นเช็คในเดือนพฤษภาคม จึงอาจมองว่าเป็นการขึ้นเช็คล่าช้า