Sideways Up
Trading Buy เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้าน โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1643 / 1650 จุด แนวรับ 1628 / 1623 จุด เป็นผลจาก 1) ความเสี่ยง Brexit อาจคลี่คลายไปในทางบวก หากสภาอังกฤษวันพรุ่งนี้อนุมัติแผน Soft Brexit Deal ใหม่ ขณะที่สภายุโรปคาดมีมติอนุมัติวันนี้ 2)ผลการโหวตวาระแรก งบประมาณปี 2020 วันพรุ่งนี้ คาดว่ารัฐบาลจะสามารถโหวตผ่านไปได้ แม้จะมีเสียงปริ่มน้ำ 3)โมเมนตัมบวกของรายงานผลกำไรบจ.สหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่จะรายงานกำไรดีกว่าคาด
ประเด็นสำคัญวันนี้: US-Earnings: AMEX, Coca-Cola / ไทย-การอภิปรายงบประมาณปี2020 วาระแรก วันที่สอง / จีน-รายงาน 3Q19E GDP คาด +6.1% YoY / สหรัฐฯ-เริ่มต้นขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอียู อาทิ Cheese, Whisky, Wines วงเงิน USD7.5bn
สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เคลื่อนไหว Sideweys Down ก่อนมาปิดตลาดที่ 1632.80 จุด -1.66 จุด หรือ -0.10% วอลุ่มซื้อขาย 6.09 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมี -3.95% เกษตรฯ -3.2% และนำขึ้นโดยกลุ่มอสังหาฯ +1.25% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ +1.12%
ประเด็นสำคัญวันนี้
+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้นเล็กน้อย DJ +0.09% S&P500 +0.28% Nasdaq +0.4% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง DAX -0.12% CAC40 -0.42% FTSE +0.2% รับข่าวผลเจรจา Brexit ระหว่างอียูกับ UK บรรลุข้อตกลงใหม่ แต่ยังต้องรอลุ้นผลโหวตสภาอังกฤษพรุ่งนี้ และข่าวสหรัฐฯ กับตุรกี บรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียแล้ว
+ น้ำมันดิบและทองคำขึ้นต่อเนื่อง: WTI +USD0.57 หรือ +1.1% ปิด USD53.93/บาร์เรล Brent +USD0.49 หรือ +0.8% ปิด USD 59.91/บาร์เรล และทองคำ ปรับเพิ่มขึ้น USD 4.30 หรือ +0.29% ปิด USD1,498.30/ออนซ์ จากการกลับมาอ่อนค่าของสกุล USD
+/- Brexit: นายกฯ อังกฤษ จอห์นสัน และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ฌอง คล้อดยุงเกอร์ ประกาศบรรลุข้อตกลง Brexit ใหม่วานนี้ โดยผู้นำอียูจะพิจารณาเพื่ออนุมัติ
วันนี้ ส่วนสภาอังกฤษจะพิจารณาวันเสาร์ โดยยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะสามารถผ่านสภาได้ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล DUP และพรรคฝ่ายค้าน อนุรักษ์นิยม ประกาศไม่
สนับสนุนแผนดังกล่าว
+ ไทย: งบประมาณ-นายกฯ เผยการจัดทำงบประมาณปี 2020 ที่ 3.2 ล้านล้านบาทขาดดุล 4.69 แสนล้านบาท โดยเป็นงบลงทุน 20.5% รายจ่ายประจำ 74.8% ภายใต้
คาดการณ์ GDP ปี 2019-20E ที่ 2.7-3.2% และ 3-4% ตามลำดับ
- ไทย: ม.หอการค้า คาด 2019E GDP จะขยายตัว 2.8-3% โดยหากจะเติบโตให้ได้ 3% รัฐบาลจะต้องอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่ม 3-5 หมื่นล้านบาท ผ่านมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2
- สหรัฐฯ: กระทรวงการคลัง เผยจีนลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ USD6.8bn ในเดือน ส.ค.
- เยอรมนี: กระทรวงเศรษฐกิจปรับลดคาดการณ์ 2020E GDP เป็น 1% จากเดิม 1.5% และคงเป้าปี 2019E ที่ +0.5% แต่ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นวิกฤติ แม้จะมีความเสี่ยงจาก
Brexit และความขัดแย้งทางการค้า
- สหรัฐฯ: ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน ก.ย. ร่วง 9.4% MoM เป็น 1.256 ล้านยูนิต (Vs คาด 1.32 ล้านยูนิต และเดือน ส.ค. 1.386 ล้านยูนิต) และการผลิตภาคอุตฯ เดือน ก.ย.-0.4% MoM ร่วงลงมากสุดรอบ 5 เดือน และแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ -0.2% MoM เนื่องจากการผลิตรถยนต์ที่ลดลง จากเหตุประท้วงของ GM
กลยุทธ์: Trading Buy เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้าน โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%
หุ้นแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: DIF AMATA INTUCH
หุ้นโมเมนตัมบวก: AWC GPSC CBG BGRIM TOA AMANAH ICHI BFIT BEC DDD PSL
หุ้นโมเมนตัมลบ: IVL GFPT MALEE BWG / KTC (งบ 3Q19 แย่กว่าคาด)
Derivatives: รอเปิด Long S50Z19 เมื่ออ่อนตัว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง