'ยุทธพงศ์' ซัดร่างงบฯ63 ไม่เหมาะสม4ด้าน พ่วงแฉบ่อนสีลม จี้นายกฯจัดการ

'ยุทธพงศ์' ซัดร่างงบฯ63 ไม่เหมาะสม4ด้าน พ่วงแฉบ่อนสีลม จี้นายกฯจัดการ

“ยุทธพงศ์” ซัดร่างงบฯ63 ไม่เหมาะสม4ด้าน พ่วงแฉบ่อนสีลม จี้นายกฯจัดการ พร้อมจวกร่างกม.งบฯ ไม่ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ปมทุจริตขยายสัมปทานบีทีเอสสายสีเขียว

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.62 ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านบาทบาท วันที่สอง ตลอดช่วงบ่าย การอภิปรายของ ส.ส.​ยังเป็นการนำเสนอเหตุผลและรายละเอียดตามจุดยืนของแต่ขั้วการเมือง ทั้งนี้มีประเด็นการอภิปรายที่เปิดโปงการใช้งบประมาณที่ล้มเหลวและพบการไม่เอาใจใส่แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น

โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พบการใช้งบประมาณไม่เหมาะสม 4 ด้าน คือ 1.ไม่มีวินัยการเงินการคลัง เพราะตั้งแต่ปี 2557 พบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ รวมกว่า 2.9 แสนล้านล้านบาท ส่วนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่าจะจัดงบประมาณแบบสมดุล ปี 2573 ตามที่นั้นตนไม่เชื่อว่าจะทำได้, 2. ไม่มีรายละเอียด และจัดงบประมาณเลื่อนลอย โดยมีลักษณะตั้งงบประมาณที่เกรงใจทหาร, 3.งบประมาณทำไม่ได้จริง

โดยเฉพาะงบประมาณด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จำนวน 1 แสนล้านบาท ระบุผลสำฤทธิ์ว่าลดปัญหาอาชญากรรรม และบังคับใช้กฎหมายรวมถึงอำนวยความยุติธรรมให้สังคม รวมถึงสร้างหลักประก้นความปลอดภัย ซึ่งตนไม่เชื่อว่าทำได้จริง และ4. ไม่ทำตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา นโยบายข้อที่ 8 คือ แก้ปัญหาทุจริตในวงราชการ เช่น โครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสีเขียวทิศเหนือจากหมอชิตไปคูคต และ ทิศใต้ จากแบริ่ง ไปบางปู สมุทรปราการ ที่ล่าสุดกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาฯ ตรวจสอบพบความไม่โปร่งใส แต่คณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณา และเตรียมเสนอให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อให้นายกฯ ลงนาม ทั้งนี้ตนไม่เห็นเหตุผลว่าจะต้องต่อสัญญาสัมปทานให้บีทีเอสต่อไปอีก 40 ปี ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องว่าอย่าใช้ข้ออ้างว่าเป็นหนี้ เพราะหากเป็นหนี้จริงต้องตั้งงบประมาณเพื่อชดใช้

"วันนี้หาก สตช. บอกว่าได้เงินไป 1แสนล้านบาท เพื่อปราบอาชญากรรม แต่ผมไม่เชื่อ เพราะรัฐบาลใช้งบประมาณมหาศาลแต่ไม่จริง ตัวอย่าง พื้นที่ การค้าย่านสีลม ช่วงปิดสมัยการประชุมผมลงพื้นที่ พบภาวะซบเซาไม่มีเงินเช่าสำนักงาน แต่เปลี่ยนไปเป็นเปิดคาสิโน เพื่อนผมพาไปดูพื้นที่ คาสิโนเปิดที่ถนนสีลม ซอยธนิยะ ใต้สถานีบีทีเอสสีลม โดยมีสน.ทุ่งมหาเมฆ และมีสน.บางรัก ดูแลพื้นที่ แต่พบการเปิดบ่อน ที่ชื่อว่าบ่อนสีลม ผมถามว่าใครเปิด คนเขาบอกว่าเฮียตี๊ จะเป็นไปได้อย่างไร ผมขอฟ้องนายกฯ ให้จัดการเพราะวันนี้นายกฯ​ดูแลสำนักงานตำรรวจแห่งชาติ" นายยุทธพงษ์ อภิปราย

ขณะที่ พล.อ. อนุพงษ์ ชี้แจงว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้นไม่มีการทุจริต และไม่มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อ ดำเนินการไว้ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563 ทั้งนี้ในรายละเอียดสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าของบริษัทบีทีเอส จะสิ้นสุด ปี 2572 ก่อนส่งมอบให้กับกรุงเทพมหานครดูแล ขณะที่บีทีเอสส่วนต่อขยายซึ่ง การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) ดูแลในเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียว ส่วนหมอชิต-คูคน และ ส่วนต่อขยายจากแบริ่ง - บางปู สมุทรปราการ ทั้งนี้ยอมรับการเปิดเดินรถดังกล่าวจะทำได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ยอมรับว่า รฟม. ​ไม่สามารถบริหารจัดการได้ จึงต้องโอนมาให้กทม.​ดำเนินการและต้องรับภาระหนี้รวม 8 หมื่นล้านบาทด้วย ทั้งนี้หลังจากการโอนทรัพย์สินของรถไฟฟ้ามาให้กทม. แล้วเชื่อว่าจะมีรายได้ ในปี 2573 แต่ระหว่างก่อนส่งมอบเชื่อว่าจะมีปัญหาเรื่องการขาดทุน

"หากจะมีโกงก็ไปติดคุกกัน ให้สังคมรู้ว่าบิดบังไม่ได้ ไม่ว่าผมจะอยู่ตรงนี้ หรือท่านอยู่ตรงนี้ หากท่านทำเสียหายมีทุจริตต้องรับผิดชอบ ผมว่าใครอยู่ตรงนี้ต้องทำเพื่อแก้ปัญหา ผมยืนยันว่าคณะกรรมการยุติธรรม พีพีพีนั้น ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีตำแหน่งสำคัญ ทั้งนี้สังคมต้องรู้ ท่านต้องทราบและกมธ.ของสภาฯ ผมทราบว่ากมธ.ฯสภาไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่หากผิดหรือถูกต้องรับผิดชอบ แต่ต้องแกัปัญหา ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ทำเอง หรือ ให้บริษัทไหนทำต้องมีคำอธิบายได้ ที่บอกว่าทุจริตผมยืนยันว่าไม่ใช่ และไม่เกี่ยวกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ​ปี63 " พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว