'ไทยพาณิชย์'ไตรมาส 3/62กำไรสุทธิ พุ่ง40.8 % เหตุ บุ๊กขายธุรกิจประกันชีวิต

'ไทยพาณิชย์'ไตรมาส 3/62กำไรสุทธิ พุ่ง40.8 % เหตุ บุ๊กขายธุรกิจประกันชีวิต

'ธนาคารไทยพาณิชย์' ไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิ 1.47 หมื่นล้านบาท โต 40.8 % เหตุ รับรู้กำไรพิเศษขายหุ้น ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หนุน งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 3.49 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 5.9% ขณะ เอ็นพีแอลพุ่งเป็น 3.01% จาก เดือนมิ.ย. ที่ 2.77%

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)หรือ SCB แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 ว่า มีกำไรสุทธิ 14,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 10,508.29 ล้านบาท เนื่องจาก มีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจปกติจำนวน 10,484 ล้านบาทและกำไรพิเศษจากการขายหุ้นในบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตจำนวน 11,644ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองเพิ่มเติมอีก 9,100 ล้านบาทจากสำรองปกติที่จำนวน 6,173 ล้านบาทรวมเป็นเงินสำรองทั้งสิ้น 15,273 ล้านบาท


สำหรับกำไรงวด 9 เดือนปี 2562 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 34,930ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5.9%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 32,983.95 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 สินเชื่อโดยรวมมีการขยายตัวในระดับปานกลางที่ 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างไรก็ตามรายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2562 เพิ่มขึ้น 7.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 26,191ล้านบาทจากกลยุทธ์ของธนาคารในการบริหารความเสี่ยงและการปรับพอร์ตสินเชื่อด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 3 ปี 2562 (ที่ไม่รวมรายการพิเศษ) ค่อนข้างทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยรายได้หลักจากค่าธรรมเนียมสุทธิ(recurringfee)ยังคงเติบโตโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากการให้สินเชื่อและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความมั่งคั่ง(wealth products)

รายได้จากการดำเนินงาน (ซึ่งรวมกำไรพิเศษ) เพิ่มขึ้น 74.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 60,452ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าการเติบโตของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเป็น 29.1% ในไตรมาสที่ 3ปี 2562 ณ สิ้นเดือนกันยายน2562 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น3.01% จาก 2.77% ณ เดือนมิถุนายน 2562 การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพเป็นผลมาจากความผันผวนของเศรษฐกิจในปัจจุบันอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณสิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่144%สำหรับเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.0%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
ในไตรมาสที่ 3 นี้ ธนาคารมีการบันทึกกำไรที่เกิดจากการขายบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิตแต่เนื่องจากธนาคารเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความแข็งแกร่งเพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศธนาคารจึงได้เพิ่มระดับการตั้งสำรองเพื่อรองรับหนี้ด้อยคุณภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตในขณะเดียวกัน ธนาคารเล็งเห็นศักยภาพในการขยายธุรกิจเพื่อที่จะเพิ่มรายได้ โดยเฉพาะจากธุรกิจความมั่งคั่ง และธุรกิจประกันชีวิตที่ธนาคารจะเริ่มต้นการทำงานร่วมกับพันธมิตร FWD Groupตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 นี้เป็นต้นไป รวมถึงธนาคารยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่ธนาคาร