'ธนาธร' นำแม่-เมีย-หลานขึ้นศาลรธน. ลั่นไม่ผิด-สู้หักล้างข้อหาได้

"หัวหน้าฯอนาคตใหม่" ขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนคำร้องคดีกกต.ร้องถือหุ้นสื่อ สิ้นสภาพ ส.ส. เจ้าตัวมั่นใจความบริสุทธิ์ สู้หักล้างข้อหาได้ "วีลัคมีเดีย" ปิดกิจการก่อนลงเลือกตั้ง

ศาลรัฐธรรมนูญ - ศาลฯได้นัดไต่สวน พยานจำนวน 10 ปาก ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณาว่า ความเป็นส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดียจำกัด เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส
ส. หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีมติรับคำร้องเมื่อวันที่ 23 พ.ค.และสั่งนายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

'ธนาธร' นำแม่-เมีย-หลานขึ้นศาลรธน. ลั่นไม่ผิด-สู้หักล้างข้อหาได้

โดยตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมทำข่าวการไต่สวนครั้งนี้ ขณะที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญกันพื้นที่โดยรอบสำนักงานฯ ให้มีการเข้าออกเพียงทางเดียวเพื่อรักษาความปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่บก.น.2 จำนวน 40 นาย มาคอยการรักษาดูแลความเรียบร้อย การเข้าออกต้องมีการแลกบัตรผ่านเข้าพื้นที่ทั้งพยานและสื่อมวลชน ซึ่งพยานทั้ง 10ปาก
ประกอบด้วย 1.คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
2.คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร
3.คุณรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยานายธนาธร
4.คุณปิติ จรุงสถิตย์พงศ์ หลานชายนางสมพร
5.คุณทวี จรุงสถิตย์พงศ์ หลานชายนางสมพร

157136786719


6.คุณลาวัลย์ จันทร์เกษม พนักงานบริษัทวี-ลัคมีเดีย จำกัด
7.คุณกานต์ฐิตา อ่วมขำ พนักงานบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด
8.คุณณัฐนนท์ อภินันท์ ทนายความ
9.คุณพิพัฒพงศ์ รุจิตานนท์ ทนายความ
10.คุณชัยสิทธิ์ กล้าหาญ คนขับรถของนายธนาธร

ตั้งแต่เช้า โดยนางสมพร และนางรวิพรรณ แม่และภรรยาของนายธนาธร เดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 07:40น. โดยมีพยาบาลมาคอยดูแลนางสมพรด้วย ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายธนาธร เดินทางมาให้กำลังใจด้วย ซึ่งนายธนาธรเดินทางมาถึงในเวลา 08:30 น. แสดงความมั่นใจว่า เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใน หลักฐานของเรา เพราะถ้าไปดูเอกสารที่ตนนำมาหักล้างข้อกล่าวหา จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใคร มีพยาน หลักฐานอะไร มาหักล้างสิ่งที่เราแสดงได้ จึงต้องดูว่า จะมีอะไรมาหักล้าง โดยได้ส่งเอกสารหลักฐานต่างๆให้ศาลหมดแล้ว

'ธนาธร' นำแม่-เมีย-หลานขึ้นศาลรธน. ลั่นไม่ผิด-สู้หักล้างข้อหาได้

"อย่างกรณีบริษัทวี-ลัค เป็นสื่อหรือไม่ จริงๆบริษัทได้แจ้งหยุดดำเนินกิจการตั้งแต่เดือนพ.ย.ไปแล้วไม่มีการดำเนินการ ไม่มีพนักงาน เมื่อปิดดำเนินการ ก็ถือว่าไม่เป็นสื่อแล้วและถ้าไปดูในรายละเอียดบริษัททำอะไร มีคำพิพากษาศาลฎีกากรณีตัดสิทธิ์การลงสมัครส.ส.ของนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ศาลระบุว่าแม้มีวัตถุประสงค์ของบริษัททำสื่อแต่ข้อเท็จจริงทำรับเหมาก็ถือว่า เข้าข่ายต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แต่เมื่อเราเอามาตรฐานนี้ไปใช้ในการร้อง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ต่อศาลรัฐธรรมนูญๆชี้ว่าดูแต่ตัวอักษรไม่ได้ ต้องดูว่าทำกิจการสื่อจริงหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้หากเอามาใช้กับบริษัทวี-ลัคที่รับจ้างผลิตหนังสือjib jibให้กับบริษัท นกแอร์ และปิดกิจการไปแล้วตั้งแต่เดือนพ.ย.ข้อนี้ศาลจะตีความอย่างไร" ธนาธร ระบุ

157136788424

ส่วนใครที่เอาเอกสารบอจ. 5 มาอ้างก็มีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคนวินิจฉัยเรื่องความเป็นรัฐมนตรีของนายดอน ปรมัตถ์วินัยไม่สิ้นสุดลงโดยศาลบอกว่าดูเเค่ตราสารการโอนหุ้นก็พอไม่ต้องดูเอกสารบอจ. 5 ดังนั้นเราจึงยืนยันในความบริสุทธิ์ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แม่และภรรยา ก็เตรียมตัวพร้อมอย่างดี

'ธนาธร' นำแม่-เมีย-หลานขึ้นศาลรธน. ลั่นไม่ผิด-สู้หักล้างข้อหาได้

การนำสำนวนมาเปิดเผยนั้นก็ต้องการให้สาธารณชนได้ดูเพราะเห็นว่าที่ผ่านมาได้ชี้แจงอธิบายไปมากแล้ว ฝ่ายกล่าวหาโจมตีก็ไม่เคยมีพยานหลักฐานมาหักล้าง มีแต่พูดว่าผิดตรงนั้นตรงนี้จึงอยากให้สาธารณชนช่วยพิจารณา

ทั้งนี้คดีดังกล่าวนายธนาธร อ้างว่ามีการโอนหุ้น จำนวน 675,000 หุ้น หมายเลขหุ้น 135001-2025000 ให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 62 ดังนั้น ขณะยื่นสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส ที่กกต.เปิดรับสมัครวันที่ 4-8ก.พ. ตนเอง เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนไม่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.

157136791072

แต่กกต.พบว่าเอกสารแบบ บอจ. 5 แสดงสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทวี –ลัค ซึ่งคัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น กลับระบุนางสมพร มารดานายธนาธร ถือครองหุ้นจำนวน 675,000หุ้น ดังกล่าว ลงวันที่ 21 มี.ค. 62 อีกทั้งมีข้อสังเกตว่า ตลอดระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นทุกครั้งจะส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ระบุวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นพร้อมหนังสือนำส่งนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครในเวลาใกล้ชิดกัน ซึ่งแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นในคดีนี้ จึงน่าเชื่อว่าขณะที่นายธนาธรยื่นสมัครรับเลือกตั้งมีลักษณะต้องห้ามของการใช้สิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งจึง ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย