‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.30 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.30 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าตามกระแสดอลลาร์อ่อน หากเบร็คซิทจริงจะกดดันเศรษฐกิจยุโรปแย่ลงกดดันตลาดทุน และยังจับตาแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตราสารหนี้จะกลายเป็นแรงซื้อหรือไม่ ถ้านักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงจริง เงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าได้ต่อเนื่อง

นายจิติพลพฤกษาเมธานันท์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ30.30 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ30.32 บาทต่อดอลลาร์

ภาพรวมตลาดการเงินช่วงวันก่อนและในคืนที่ผ่านมาค่อนข้างซับซ้อนฝั่งสหรัฐดัชนีS&P500 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ2997 จุดห่างจากจุดสูงสุดที่เคยทำได้เพียง28จุดโดยมีแรงสนับสนุนหลักจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งเกินคาด

แต่กลับกันเงินดอลลาร์ไม่ได้แข็งค่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆเงินยูโรน้ำมันและทองคำปรับตัวขึ้น0.95% - 1.2% ซึ่งอาจแปลความได้ว่าตลาดเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจดีขึ้นความผันผวนในฝั่งยุโรปกำลังจะหมดไปและสินทรัพย์เสี่ยงจะกลับมาน่าสนใจ

เราเชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากข้อตกลงระหว่างสหราชอาณาจักร(UK) และสหภาพยุโรป(EU)ที่ล่าสุดมีข้อตกลงที่ชัดเจนแม้ว่าทางUK จะต้องนำข้อตกลงนี้กลับมาขอความเห็นจากสภาอังกฤษก่อนแต่โดยรวมตลาดเชื่อว่าเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ

ส่วนในฝั่งของตลาดการเงินไทยพบว่าบอนด์ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจากข่าวข้อตกลงBrexit ดังกล่าวโดยล่าสุดบอนด์ยีลด์ไทยอายุ10 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ1.57% (+5bps) และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ1.2 พันล้านบาทขณะเดียวกันเงินบาทก็แข็งค่าตามกระแสดอลลาร์อ่อนด้วย

ในอนาคตเราเชื่อว่าแรงกดดันจากกระแสการอ่อนค่าของดอลลาร์(Risk On) เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่เพราะแม้ว่าข้อตกลงBrexit ฉบับใหม่ทำให้การต่อรองที่ยาวนานระหว่างUK และEU จบลงแต่ถ้าเกิดBrexit จริงก็จะกดดันเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปให้แย่ลงซึ่งไม่ได้เป็นผลดีกับตลาดทุน

ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาดูด้วยว่าแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตราสารหนี้จะกลายเป็นแรงซื้อสินทรัพย์หรือไม่โดยถ้านักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงจริงเงินบาทก็สามารถแข็งค่าได้ต่อเนื่อง

มองกรอบเงินบาทวันนี้30.25 ถึง30.35 บาทต่อดอลลาร์