ไล่ออกจนท.สถานพินิจฯ6ราย ออกใบเสร็จปลอม ทำเสียหาย1.8แสนบาท

ไล่ออกจนท.สถานพินิจฯ6ราย  ออกใบเสร็จปลอม ทำเสียหาย1.8แสนบาท

“สตง.” ฟันจนท.กรมสถานพินิจฯ จ.สุพรรณบุรี ออกใบเสร็จเท็จ ทำเสียหาย 1.8 แสนบาท หน่วยงานต้นสังกัดแจ้งผลไล่ออกพ้นข้าราชการ 6 ราย “ประธานป.ป.ช.” เซ็นต์ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “รองเลขาฯป.ป.ช.” แล้ว หลังถูกชี้มูลปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า จากกรณีที่สตง.ได้ตรวจสอบเรื่องการจัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมการรองรับคุณภาพซ้ำของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็นในด้านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดและให้บุคลากรตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการ บทบาทหน้าที่ และปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ตลอดจนเพื่อให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจ.สุพรรณบุรี มีแผนยุทธศาสตร์ด้านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2558–2560 โดยกำหนดดำเนินโครงการ จำนวน 2 รุ่น งบประมาณ 182,000 บาท ซึ่งถูกตั้งประเด็นข้อสงสัยว่า ดำเนินการโดยชอบด้วยระเบียบ กฎหมายหรือไม่ จากการตรวจสอบของ สตง. สามารถสรุปผลการตรวจสอบได้ดังนี้

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจ.สุพรรณบุรี มีกำหนดการดำเนินโครงการดังกล่าวจำนวน 2 รุ่น รุ่นที่ 1 วันที่ 21 - 22 ส.ค. 2557 และรุ่นที่ 2 วันที่ 4-5 ก.ย. 2557 โดยในช่วงเวลาดังกล่าวคณะวิทยากรไม่ได้เดินทางไปบรรยายให้ความรู้และไม่มีการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์แต่อย่างใด แต่เป็นการให้ผู้เข้าร่วมโครงการเดินทางท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆของจ.กาญจนบุรี

ต่อมาภายหลังเสร็จสิ้นโครงการ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ดำเนินการจัดทำเอกสารเพื่อส่งใช้เงินยืม รวมใบสำคัญจำนวน 26 ฉบับ เป็นเงิน 182,000 บาท โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ลงลายมือชื่อตรวจรับในใบสำคัญไว้เป็นหลักฐานทุกฉบับ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านการเงินและบัญชีได้ลงนามท้ายบันทึกข้อความส่งใช้เงินยืมดังกล่าวว่าตรวจสอบแล้ว และได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปโดยไม่มีผู้ทักท้วงแต่อย่างใด ทั้งที่ทราบว่ารายการค่าใช้จ่ายบางรายการไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง

“การส่งใช้เงินยืมดังกล่าว จึงเป็นการจัดทำเอกสารหลักฐานส่งใช้เงินยืมอันเป็นเท็จ อีกทั้ง การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการเบิกเงินโดยไม่มีสิทธิ ทำให้ราชการได้รับความเสียหายและมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นการทุจริต สตง. จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางอาญา ทางละเมิด และทางวินัยอย่างร้ายแรงกับผู้กระทำความผิด”

ล่าสุดสตง.ได้รับแจ้งผลการดำเนินการทางวินัยและทางละเมิดเรียบร้อยแล้ว โดยมีความเห็นว่าการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการเบิกโดยไม่มีสิทธิ และเป็นการเบิกจ่ายจากการทำเอกสารหลักฐานเท็จทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 8 ราย ซึ่งมีส่วนรู้เห็นจึงต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในส่วนของความผิดทางวินัย กระทรวงยุติธรรมได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัยไล่ออกจากราชการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 6 รายแล้ว

สำหรับกรณีความผิดทางอาญา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 3 (จังหวัดนครปฐม) ได้ดำเนินการจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้กับสำนักงาน ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ

“จากผลการตรวจสอบดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสามารถนำเงินแผ่นดินคืนจากผู้กระทำการทุจริตและมีการลงโทษทางวินัยกับผู้กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นการป้องปรามมิให้เกิดการกระทำความผิดในกรณีเดียวกันนี้อีก” ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินกล่าว

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบวินัยร้ายแรง นายประหยัด พ่วงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด ฐานแจ้งรายการบัญชีและหนี้สินอันเป็นเท็จ และได้ส่งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้องต่อศาลไปแล้ว โดยมีนายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานคณะกรรมการ