“ดึงทุนนอกเพิ่ม”กลยุทธรับมือเศรษฐกิจขาลงของจีน

“ดึงทุนนอกเพิ่ม”กลยุทธรับมือเศรษฐกิจขาลงของจีน

จีน ที่แม้จะเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แต่เมื่อเจอผลพวงของการทำสงครามการค้า ก็ทำให้จีนออกอาการซวนเซได้เหมือนกัน แต่จีนก็พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการเดินหน้าเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ มุ่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น

แม้ตอนนี้ จีน จะเป็นระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่สหรัฐ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของจีนอยู่ที่กว่า 13.6 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไทยที่ปัจจุบันจีดีพีอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์และเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างมากของจีน ช่วยให้ชาวจีนจำนวนมากหลุดพ้นจากความยากจน และมีการประเมินว่านับตั้งแต่ปี 2524 คนจีนกว่า 850 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนแล้ว โดยสัดส่วนคนจนลดลงจากกว่า 88% ในปี2524 เหลือเพียงไม่ถึง 1% ในปัจจุบัน

แต่การที่จีนทำสงครามการค้ากับสหรัฐยืดเยื้อข้ามปี ทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรง ล่าสุด ที่ประชุมสภาแห่งรัฐของจีน ที่มีนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เป็นประธาน ประกาศว่า จีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมและส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น ด้วยการยกเลิกมาตรการจำกัดการลงทุนจากภายนอก รวมถึงข้อจำกัดด้านการลงทุนในเขตการค้าเสรีนำร่อง ซึ่งเป็นความกังวลของนักลงทุนให้หมดไป

นอกจากนี้ ข้อจำกัดการลงทุนที่ธนาคาร ซึ่งลงทุนโดยต่างประเทศ รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทบริหารจัดการกองทุน ที่เข้ามาดำเนินกิจการในจีนกำลังเผชิญก็จะถูกยกเลิกไปโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ ข้อบังคับใหม่ในการบริหารกิจการธนาคารและบริษัทประกันภัย ที่ได้รับเงินทุนจากต่างประเทศก็จะถูกนำมาใช้อย่างครอบคลุม ทั้งยังมีการปรับปรุงนโยบายด้านการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ดีกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในตลาดทั้งกับบริษัทจีนและบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนผลิตรถยนต์พลังงานทดแทนในจีน

หลี่ เค่อเฉียง พูดชัดเจนว่า จีนต้องปรับปรุงนโยบายและการทำงานให้ดีกว่านี้ และต้องทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ เพื่อปิดช่องทางที่จะทำให้เกิดความล้มเหลว

ที่ประชุมสภาแห่งรัฐ มีมติอำนวยความสะดวกให้กับการลงทุน และเดินหน้าดำเนินการปฏิรูปนำร่องเพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ในบัญชีทุนในหลายพื้นที่ โดยบริษัทที่ลงทุนโดยต่างชาติจะได้รับการสนับสนุนให้สามารถเลือกรูปแบบการกู้ยืมจากผู้ให้กู้จากต่างประเทศโดยอิสระ ขณะเดียวกันก็สามารถมีส่วนร่วมในการลงทุนในตราสารทุนของจีนได้

สำหรับโครงการที่ลงทุนโดยต่างชาตินั้น การพิจารณาขั้นต้นในการเลือกที่ตั้งและใช้สิทธิในที่ดินจะถูกรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน ขณะที่กระบวนการยื่นแบบเพื่อขออนุญาตและดำเนินการก่อสร้างก็จะถูกผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว

ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งจะปูทางไปสู่การปิดฉากสงครามการค้าที่ไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะอย่างแท้จริงนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกว่า การทำข้อตกลงการค้ากับจีน อาจจะไม่มีการลงนามกันจนกว่าเขาจะประชุมร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอดเอเปค ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศชิลีในเดือนพ.ย.นี้

เอาใจช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผู้นำสหรัฐพูด บรรยากาศทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่อึมครึมจะได้หมดไปเสียที