อังกฤษ-อียูบรรลุข้อตกลงเบร็กซิทหนุนดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น

อังกฤษ-อียูบรรลุข้อตกลงเบร็กซิทหนุนดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น

อังกฤษ-อียูบรรลุข้อตกลงเบร็กซิทหนุนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (17ต.ค.)ปรับตัวขึ้น

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 24.18 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 27,026.16 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 8.28 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 2,997.97 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 32.67 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 8,156.85 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เบร็กซิท หลังจากที่สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงใหม่ โดยทั้งนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ต่างทวีตข้อความยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ย.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 214,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 9.4% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.256 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับระดับ 1.386 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2550 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน อาจลดลงสู่ระดับ 1.320 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.

เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงรายงานว่า การอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 2.7% สู่ระดับ 1.387 ล้านยูนิตในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้นสู่ 1.425 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2550

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หรือในรอบห้าเดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ซึ่งการปรับตัวลงของการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือนก.ย.นั้น เป็นผลมาจากการหดตัวของผลผลิตทั้งจากภาคโรงงานและภาคเหมืองแร่ มีเพียงภาคสาธารณูปโภคเท่านั้นที่มีการผลิตเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยสภาพอากาศ