ตะลุยอาณาจักร “ช้อปปี้” ทุกตารางนิ้วเน้น "เข้าถึง"และ"เข้าใจ"

ข้อมูลจากกูเกิล-เทมาเส็ก-เบน (Google-Temasek-Bain) แสดงให้เห็นว่าอีคอมเมิร์ซเป็นฟันเฟืองที่ใหญ่ที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะสูงถึง 1. 53 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2568 หรือ 4 เท่าของมูลค่าในปีนี้

“กรุงเทพธุรกิจ” มีโอกาสเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ “ช้อปปี้” (Shopee) ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการเบอร์ 1 ด้านแอพพลิเคชั่นชอปปิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไต้หวัน ทั้งในแง่ยอดดาวน์โหลดและจำนวนผู้ใช้งานเฉลี่ยรายเดือน

4ปีสู่เจ้าตลาดอีคอมเมิร์ซ

คริส เฟิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช้อปปี้ กล่าวว่า ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปีที่ช้อปปี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2558 มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงของตกแต่งบ้าน สินค้าสุขภาพ ความงาม สินค้าแม่และเด็ก แฟชั่น และอุปกรณ์กีฬา จนถึงวันนี้ช้อปปี้ขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ซึ่งในภูมิภาคนี้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ช้อปปี้ มีแผนการดำเนินงานที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสู่ความสำเร็จนี้ ด้วยการเชื่อมโยงผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาค ผ่านการสร้างประสบการณ์การชอปปิงที่น่าสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน ซึ่งในปีที่ผ่านมาช้อปปี้ได้พัฒนาฟีเจอร์เกมต่างๆ เพื่อให้การชอปปิงออนไลน์เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และมีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้งานและแพลตฟอร์มมากขึ้น

วันนี้ช้อปปี้ทั่วทั้งภูมิภาคได้เปิดตัวเกมบนแอพพลิเคชั่นมากกว่า 15 เกม อาทิ Shopee Shake Shake ที่มีผู้เล่นแล้วกว่า 700 ล้านครั้ง และในแคมเปญ 9.9 Super Shopping Day มียอดสั่งซื้อสูงขึ้นถึง 3 เท่าด้วยกัน

ทั้งนี้ ช้อปปี้อยู่ในกลุ่มบริษัท Sea ในสิงคโปร์และขยายไปยังมาเลเซีย ไทย ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยที่ผ่านมาช้อปปี้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยระบบการชำระเงินและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์

มูลค่าซื้อขายทะยานกว่า72%

คริส เสริมว่า "ตลาดภูมิภาคนี้มีความแตกต่าง และหลากหลายอย่างมาก มีจำนวนการใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือสูง และผู้ใช้งานมองหาคอนเทนท์ความบันเทิงที่ได้ถูกปรับให้กับคนในภูมิภาคนี้ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ช้อปปี้เติบโต เพราะเราเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าของเรา ซึ่งตามรายงานของ App Annie ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ช้อปปี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแอพพลิเคชั่นในหมวดชอปปิงอันดับ 1 จากยอดผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users) และยอดดาวน์โหลดรวมเฉลี่ยบนกูเกิล เพลย์ และแอ๊ปเปิ้ล สโตร์ สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน"

อีกทั้ง ช้อปปี้มีมูลค่าการซื้อขายสินค้า (GMV) รวมกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 72.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว โดยมูลค่าการซื้อขายสินค้า (GMV) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 อยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์ มียอดคำสั่งซื้อรวม(Gross orders) ถึง 246.3 ล้านคำสั่งซื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้น 92.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วโดยยอดคำสั่งซื้อรวม (Gross orders) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 อยู่ที่ 127. 8 ล้านคำสั่งซื้อ

นอกจากนี้ ยังมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 200 ล้านครั้ง มีจำนวนผู้ขาย (Active Sellers) มากกว่า 7 ล้านราย มีจำนวนแบรนด์ และร้านค้าพันธมิตรบน Shopee Mall มากกว่า 10,000 ราย และมีสัดส่วนยอดคำสั่งซื้อบนมือถือมากกว่า 95% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลอัพเดทล่าสุดเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บ่งบอกว่าช้อปปี้คือผู้นำในตลาดนี้อย่างแท้จริง

ออฟฟิศใหม่“ฮับ”ภูมิภาค

ขณะที่ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่สิงคโปร์ “คริส” เล่าว่า เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการมอบประสบการณ์การชอปปิงออนไลน์ที่เน้นปฏิสัมพันธ์และความเป็นโซเชียลอย่างแท้จริงให้แก่ลูกค้า และตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ ยังสอดคล้องกับแผนการลงทุนในระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคนี้ด้วย

สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 244, 000 ตารางฟุต และจะเป็นฮับสำคัญด้านนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขยายธุรกิจของช้อปปี้ในทั้ง 7 ประเทศ สามารถรองรับพนักงานได้ถึง 3,000 คนเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมในการทำงานอย่างสร้างสรรค์ และเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งวัฒนธรรมการทำงานที่มีชีวิตชีวาของช้อปปี้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านดีไซน์ที่ทันสมัย และสะท้อนถึงแนวคิดในเรื่องความเชื่อมโยง (Connectivity) ความร่วมมือ (Collaboration) และการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Community)

“ในแต่ละวันพนักงานของเราใช้ชีวิตอยู่ที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นสร้างบรรยากาศการทำงานที่ให้ทำพนักงานรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน จะช่วยทำให้เกิดการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันของพนักงานในองค์กรทุกคน”

คริส ยังได้กล่าวถึงมหกรรม 11.11 Big Sale ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ซึ่งช้อปปี้พร้อมรุกหนักมหกรรมดังกล่าว ซึ่งจะเปิดตัวพร้อมกันทั้ง 7 ประเทศ เริ่มตั้งแต่วันนี้ยาวไปจนถึงวันที่ 11 พ.ย. นี้ โดยช้อปปี้ได้เตรียมกลยุทธ์และแผนการธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อขับเคลื่อนตลาดอีคอมเมิรซ์ในภูมิภาคนี้ ผ่านการสร้างปฏิสัมพันธ์และเชื่อมต่อผู้ใช้งานไว้ด้วยกันในรูปแบบของโซเชียล