'พาณิชย์' เปิดแผนกระตุ้นส่งออก 3 เดือนแรกปีงบ 63 กว่า 50 โครงการ

'พาณิชย์' เปิดแผนกระตุ้นส่งออก 3 เดือนแรกปีงบ 63 กว่า 50 โครงการ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยแผนงาน 3 เดือนแรก ปีงบ 63 ชูกลยุทธ์ รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ฟื้นฟูตลาดเก่า ดันงาน Top Thai Brands เจาะตลาดอาเซียนและอินเดีย

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางและมาตรการในการส่งเสริมการส่งออกของไทยในปีงบประมาณ 2563 ว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าของไทยอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้วางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นการส่งออกของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2563 เน้นการเร่งรัดการส่งออกสินค้าและบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม ผักและผลไม้ รวมทั้งสินค้าบริการต่างๆ อาทิ สินค้าโอท็อป สินค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง แอนิเมชันและดิจิทัลคอนเทนต์


โดยชู 4 กลยุทธ์หลัก คือ 1. รักษาและขยายตลาดเดิม อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น อาเซียน และจีน 2. เพิ่มตลาดใหม่ อาทิ เอเชียใต้ (อินเดีย) ลาตินอเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง 3. ฟื้นฟูตลาดเก่า เช่น ตลาดข้าวในประเทศอิรัก โลจิสติกส์เพื่อการส่งออกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ การจัดตั้งแหล่ง Thai Mart เพื่อกระจายสินค้าและศูนย์ค้าส่ง-ปลีกสินค้าสำคัญของไทยในบาห์เรนและ 4. มุ่งเน้นการค้าชายแดนและข้ามแดนมากขึ้น พร้อมผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ อาทิ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-Economy) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) สตาร์ทอัพ (Start Up) และ SMEs รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) และทูตพาณิชย์ในประเทศต่างๆ


สำหรับแผนงานเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการส่งออกในช่วงเดือนต.ค. – ธ.ค. 2562 มีแผนงานที่สำคัญกว่า 50 โครงการ อาทิ การจัดประชาสัมพันธ์สินค้าไทย การเจรจาธุรกิจ การจัดงานแสดงสินค้าในไทยและต่างประเทศ การจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจในประเทศไทย อาทิ การจัดงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ Style Bangkok 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 ต.ค. โดยมีผู้ประกอบการไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 980 บริษัท 1,800 คูหา คาดการณ์ผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 คน การจัดงาน ASEAN Style คู่ขนานไปกับ การประชุมผู้นำอาเซียน หรือ ASEAN Summit 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย. 2562 และ การจัดงาน Sourcing Forum ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 พ.ย. 62 โดยมีคณะผู้นำเข้ากว่า 400 รายจากทั่วโลก เดินทางมาเจรจาการค้าในประเทศไทย มีสินค้าเป้าหมาย ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ผลไม้ สินค้าพลาสติกชีวภาพ (bio plastic) และอื่นๆ


ในส่วนกิจกรรมในต่างประเทศ กรมพุ่งเป้าไปยังประเทศสำคัญ อาทิ ตลาดจีน เน้นการประชาสัมพันธ์ผลไม้ของไทย การขยายตลาดออนไลน์สินค้าเกษตร อาหาร เครื่องประดับ ของใช้ การขยายสินค้าฮาลาลในมณฑลชั้นในของจีน โดยจัดโครงการยกระดับการส่งออกผลไม้และสินค้านวัตกรรมจากผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน ระหว่างวันที่ 25-26 ต.ค. เมืองหนานหนิง และนำผู้ประกอบไทยไทยจำนวน 46 ราย เข้าร่วมงาน China International Import Expo ณ นครเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างวันที่ 4- 6 พ.ย.นี้

นอกจากนี้ก็ยังมีเจาะตลาดหลักของไทยทั้งตลาดสหรัฐเน้นขยายฐานผู้นำเข้าและเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ขยายฐานตลาดสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรไทย โดยใช้สื่อดิจิทัล รวมทั้ง ใช้ร้านอาหารไทยที่ได้ Thai Select เป็นประตูในการขายสินค้าอาหารไทย รวมทั้งการเข้าร่วมงาน American Film Market 2019 และการจัดงาน Thai Night เพื่อการขยายโอกาสธุรกิจ ภาพยนตร์ แอนิเมชันและดิจิทัลคอน


ตลาดญี่ปุ่น เน้นผลักดันข้าวไทยไปใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปในญี่ปุ่น การส่งเสริมข้าว Rice berry ในฐานะ Functional Food และส่งเสริมเมนูอาหารไทยพร้อมรับประทานร่วมกับบริษัท Food Services รวมทั้งการใช้โอกาสจากงานโอลิมปิก 2020 และงาน Japan World Expo 2025 ตลาดสหภาพยุโรปและรัสเซีย – กรมได้เร่งเจรจาผลักดันขยายตลาดในรัสเซีย ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าเกษตร (ผักและผลไม้สด) ผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ OCADO และส่งเสริมการตลาดผ่าน Online influencers ต่างๆ การนำคณะผู้ประกอบการสินค้าอาหารเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ANUGA 2019 และผู้ประกอบการสินค้าทางการแพทย์ ร่วมงานแสดงสินค้า MEDICA 2019 ระหว่างวันที่ 18 -21 พ.ย. ประเทศเยอรมนี ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดเดินทางเยือนตุรกีและเยอรมนี เพื่อหารือกับผู้นำเข้า/นักลงทุนรายใหญ่ และร่วมงานแสดงสินค้าทางการแพทย์ Medica 2019 คาดว่าจะมีการลงนาม MOU จำนวน 2-3 ฉบับ และเจรจาการค้าเกี่ยวกับสินค้ายางพาราและสินค้าอื่น ๆ
ตลาดอินเดีย นั้นเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยและเทศกาลสินค้าไทยร่วมกับห้างค้าปลีกเครือ Future Group และ Reliance Group โดยให้นำเข้าสินค้า non-food จากไทยมากขึ้น เช่น เวชสำอาง เครื่องสำอาง ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น พร้อมเจาะเมืองรอง อาทิ ปูเน่ บังกาลอร์ สุรัต อินดอร์ไฮเดอราบัด กัลกัตตา และรัฐเจ็ดสาวน้อย ผ่านงานแสดงสินค้า Top Thai Brands และการขยายตลาดออนไลน์ โดยร่วมมือกับเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย Bigbasket


สำหรับ ตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศเดินทางไปเจรจาฟื้นฟูตลาดข้าวในอิรัก โดยได้เชิญนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมผลักดันการส่งออกในตะวันออกกลาง และเข้าร่วมแสดงสินค้า Gulf food ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 20 ก.พ. 2563 และ ใช้โอกาสนี้หารืองาน Dubai World Expo 2020 ที่จัดขึ้นระหว่างเดือนต.ค. 2562 – เม.ย. 563 ผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้ง ใช้ดูไบเป็น Multi Model Logistics Hub สำหรับสินค้าไทยไปยังตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และยุโรป


ตลาดลาตินอเมริกา เน้นกิจกรรมการนำคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจในลาตินอเมริกา และจัดคณะผู้นำเข้าเข้ามาเจรจาการค้าในไทย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุน โดยมีสินค้าเป้าหมาย อาทิ ยางพารา ถุงมือยาง ผลไม้อบแห้ง ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ชิ้นส่วน ยานยนต์ ไม้อัด ไม้ MDF


“ในแต่ละตลาดจะมีการเน้นการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมผูกใจมิตรแท้ มอบรางวัลคู่ค้าดีเด่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้าในตลาดสหรัฐอเมริกา จีนและฮ่องกง เป็นต้น