Sideways Down

Sideways Down

Trading Buy เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้าน โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เราคงมุมมอง Slightly Negative และคาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1643 / 1650 จุด แนวรับ 1628 / 1623 จุด เป็นผลจาก 1) สงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ มีแนวโน้มยืดเยื้อ หลังสภาฯ สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนฮ่องกงฯ ทำให้ความสัมพันธ์จีนกับสหรัฐฯ ตึงเครียด 2) ข้อตกลง Brexit ระหว่างอียูกับอังกฤษ อาจไม่มีข้อสรุปทันเส้นตายปลายสัปดาห์นี้ 3)รายงานผลกกำไรบจ.ไทย มีแนวโน้มแย่กว่าตลาด (ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่จะรายงานกำไรดีกว่าคาด)

ประเด็นสำคัญวันนี้: US Earnings: Honeywell, MS, Union Pacific; Brussel-ประชุม 2 วันของผู้นำอียู พิจารณาเรื่อง Brexit: ไทย-การอภิปรายงบประมาณปี 2020 วาระแรกระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค.

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เคลื่อนไหว Sideweys up ก่อนมาปิดตลาดที่ 1634.46 จุด +7.45 จุด หรือ +0.46% วอลุ่มซื้อขาย 5.85 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง +1.56% ขนส่ง +1.44% มีเดีย +1.38% ส่วนกลุ่มนำลง คือ ปิโตรเคมี -2.02% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ -1.58%

ประเด็นสำคัญวันนี้

- ตลาดหุ้นโลกย่อตัว: DJ -0.08% S&P500 -0.20% Nasdaq -0.30% วิตกข่าวความสัมพันธ์จีนกับสหรัฐฯ ตึงเครียดหลังสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง รวมถึงยอดค้าปลีกเดือน ก.ย. ที่แย่กว่าคาดส่วนตลาดหุ้นยุโรป ปิดคละ DAX +0.32% CAC40 -0.09% FTSE -0.61% ลุ้นผล
เจรจา Brexit

+ น้ำมันดิบฟื้นตัว: WTI +USD0.55 หรือ +1.04% ปิด USD53.36/บาร์เรล Brent+USD0.68 หรือ +1.16% ปิด USD 59.42/บาร์เรล จาคาดว่าจะมีการปรับลดการผลิตในการประชุมโอเปคในวันที่ 5-6 ธ.ค. ทองคำพุ่ง: ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น USD10.50 หรือ +0.7% จากแรงซื้อคืนสินทรัพย์ปลอดภัย

- ค่าการกลั่น: ค่าการกลั่นสิงคโปร์ต้นสัปดาห์นี้ดิ่งลงแรง โดยต่ำกว่า USD2/บาร์เรล เป็นผลจากค่าขนส่งทางเรือ (freight Cost) ที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์จากเฉลี่ย USD1-2 เป็น USD6-7/บาร์เรล เนื่องจากสหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทในเครือของ COSCO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันทางเรือที่มีสัดส่วน 8% ของโลก (ดู Flash Note วานนี้)

+/- ไทย: สภาฯ เริ่มพิจารณางบฯ ร่ายจ่ายปี 2020 วาระแรกในวันที่ 17-19 ต.ค. โดยหากโหวตไม่ผ่านสภาฯ อิงพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ในปัจจุบัน จะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีต้องพิจารณายุบสภาหรือลาออก

- สหรัฐฯ: สภาผู้แทนฯ ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง โดยจะมีการพิจารณาการปรับลดสิทธิพิเศษทางการค้า หากไม่มีเสรีประชาธิปไตยในฮ่องกง

+/- Brexit: เจ้าหน้าที่ EU แสดงความกังวลว่า อังกฤษและอียู อาจไม่สามารถทำข้อตกลงBrexit ร่วมกันได้ เนื่องจากยังไม่สามารถหาทางออกได้ทางเทคนิคประเด็น ซึ่ง
พรรคร่วมรัฐบาลอังกฤษ DUP ได้คัดค้านข้อเสนอของนายกฯ จอห์นสัน

+ ไทย: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยคลังเตรียมนำมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 เสนอให้ที่ประชุมครม. เห็นชอบในวันที่ 22 ต.ค. โดยจะให้สิทธิ์เป๋าเงินช่องที่ 2 ได้เงินคืน
20% (จากเดิมให้ 15%) โดยจะให้เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่ในวันที่ 23 ต.ค.

- เศรษฐกิจโลก: หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Moody Analytic เผยมีความเสี่ยงสูงมากที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า และผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกอาจไม่สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ดังกล่าวได้

- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีกเดือน ก.ย. ลดลงครั้งแรกรอบ 7 เดือนที่ -0.3% MoM (Vs คาด +0.3% MoM) ส่งสัญญาณว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลัง
ชะลอตัวลง

กลยุทธ์: Trading Buy เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้าน โดยมีจุดตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

       หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: DIF AMATA INTUCH

       หุ้นโมเมนตัมบวก: GPSC OSP RATCH DOHOME EPG WORK SISB STPI MALEE

       หุ้นโมเมนตัมลบ: BANPU TKN IRPC PIMO AAV ANAN DELTA SC

       Derivatives: ทยอยปิดสถานะ Long S50Z19 ต้นทุน 1080 จุด เพื่อทำกำไรออกไปก่อน (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)