ยอดสั่งซื้อผ่าน "ช้อปปี้" ไตรมาส 2 ทะลุ 3.8 พันล้านดอลล์

"กรุงเทพธุรกิจ" มีโอกาสเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ “ช้อปปี้” ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการเบอร์ 1 ด้านแอพพลิเคชั่นช้อปปิ้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ทั้งในแง่ยอดดาวน์โหลดและจำนวนผู้ใช้งานเฉลี่ยรายเดือน ย้ำวิสัยทัศน์ในการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ ที่เน้นปฏิสัมพันธ์และความเป็นโซเชียล

ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เปิดบ้าน สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการลงทุนในระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคนี้ โดยสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 244,000 ตารางฟุต และจะเป็นฮับสำคัญด้านนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขยายธุรกิจของช้อปปี้ในทั้ง 7 ประเทศ สำนักงานแห่งใหม่นี้ รองรับพนักงานได้ถึง 3,000 คน เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมในการทำงานอย่างสร้างสรรค์

วัฒนธรรมการทำงานที่มีชีวิตชีวาของช้อปปี้ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านดีไซน์ที่ทันสมัย และสะท้อนถึงแนวคิดในเรื่องความเชื่อมโยง (Connectivity) ความร่วมมือ (Collaboration) และการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Community)

คริส เฟิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช้อปปี้ กล่าวว่า ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปีช้อปปี้จากการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2558 โดยเรามีสินค้าหลากหลายตั้งแต่อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงของตกแต่งบ้าย สินค้าสุขภาพ ความงาม สินค้าแม่และเด็ก แฟชั่น และอุปกรณ์กีฬา จนถึงวันนี้ช้อปปี้ ได้ขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ซึ่งในภูมิภาคนี้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ช้อปปี้มีแผนการดำเนินงานที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสู่ความสำเร็จนี้ด้วยการเชื่อมโยงผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาคผ่านการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน ซึ่งในปีที่ผ่านมาช้อปปี้ได้พัฒนาฟีเจอร์เกมต่างๆเพื่อให้การช้อปปิ้งออนไลน์เต็มไปด้วยความสนุกสนานและมีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้งาน และแพลตฟอร์มมากขึ้นในทุกวันนี้ช้อปปี้ทั่วทั้งภูมิภาคได้เปิดตัวเกมบนแอพพลิเคชั่นมากกว่า 15 เกม อาทิ Shopee Shake Shake ที่มีผู้เล่นแล้วกว่า 700 ล้านครั้ง และในแคมเปญ 9.9 Super Shopping Day มียอดสั่งซื้อสูงขึ้นถึง 3 เท่าด้วยกัน

ทั้งนี้ ช้อปปี้อยู่ในกลุ่มบริษัท Sea ในสิงคโปร์และขยายไปยังมาเลเซีย ไทย ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยที่ผ่านมาช้อปปี้ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยระบบการชำระเงินและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์

สำหรับฤดูกาลแห่งการช้อปปิ้งออนไลน์ช่วงปลายปี ‘ช้อปปี้’ รุกหนักเตรียมส่งมหกรรมแห่งปี 11.11 Big Sale ซึ่งรับรองว่าจะเป็นมหกรรมช้อปปิ้งครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดย Shopee 11.11 Big Sale จะเปิดตัวพร้อมกันใน 7 ประเทศ และจะจัดยาวต่อเนื่องไปจนถึงวันดีเดย์ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งผู้ใช้งานทุกประเทศสามารถเพลิดเพลินกับดีลและโปรโมชั่นเด็ดสุดโดนใจ อาทิ โปรส่งฟรี ทุกวันตลอดช่วงแคมเปญ 11.11 Big Sale เสริมทัพด้วยสินค้านับล้านไอเท็มจากผู้ขายและแบรนด์ชั้นนำมากมายบนช้อปปี้

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ก้าวสู่ศักราชใหม่แห่งประวัติศาสตร์ของช้อปปี้ เราได้เตรียมกลยุทธ์และแผนการทางธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อขับเคลื่อนช้อปปี้และตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ให้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเราจะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุด ผ่านการสร้างปฏิสัมพันธ์ และเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้าไว้ด้วยกันในรูปแบบโซเชียล” คริส กล่าว

ตามรายงานของ App Annie ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ช้อปปี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแอพพลิเคชั่นในหมวดช้อปปิ้งอันดับ 1 จากยอดผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users) และยอดดาวน์โหลดรวมเฉลี่ยบน Google Play และ Apple Store สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน

อีกทั้งช้อปปี้มีมูลค่าการซื้อขายสินค้า (GMV) รวมกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 72.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วโดยมูลค่าการซื้อขายสินค้า (GMV) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 อยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์ มียอดคำสั่งซื้อรวม(Gross orders) ถึง 246.3 ล้านคำสั่งซื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้น 92.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วโดยยอดคำสั่งซื้อรวม (Gross orders) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 อยู่ที่ 127. 8 ล้านคำสั่งซื้อ

นอกจากนี้ ยังมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 200 ล้านครั้ง มีจำนวนผู้ขาย (Active Sellers) มากกว่า 7 ล้านราย มีจำนวนแบรนด์ และร้านค้าพันธมิตรบน Shopee Mall มากกว่า 10,000 ราย และมีสัดส่วนยอดคำสั่งซื้อบนมือถือมากกว่า 95% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลอัพเดทล่าสุดเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บ่งบอกว่าช้อปปี้คือผู้นำในตลาดนี้อย่างแท้จริง