เชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคอวัยวะ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ร.10

เชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคอวัยวะ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ร.10

เชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลร.10 เผยปี 61 ผู้ป่วยตายระหว่างรอปลูกถ่ายอวัยวะ 180 ราย ยังรอรับอีกกว่า 6,000 ราย ขณะที่อัตราบริจาคอวัยวะคนไทยยังต่ำ “อนุทิน” ดันออกกฎหมาย “บริจาคอวัยวะอัตโนมัติโดยหน้าที่”

วันนี้ (16ต.ค.) ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าว โครงการบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.ได้ร่วมกับ สภากาชาดไทย พัฒนาระบบงานรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะมาอย่างต่อเนื่อง

มีการกำหนดแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ จัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ และพัฒนาทีมจัดเก็บอวัยวะในทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด มีโอกาสเข้าถึงบริการปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โดยเฉพาะการปลูกถ่ายไตและดวงตา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมสร้างกุศลด้วยการบริจาคอวัยวะให้ชีวิตใหม่กับผู้ป่วยที่รอความหวังในผู้ที่มีภาวะ หัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน ไต ล้มเหลว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้แพทยสภาได้ ยกร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับชีวิตและการบริจาคอวัยวะ โดยจะเป็นการกำหนดในลักษณะที่ประชาชนเป็นเจ้าของชีวิตของตนเอง แต่ตราบใดที่วิญญาณได้ออกจากร่างหรือเสียชีวิตแล้ว ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่สามารถที่จะนำอวัยวะไปใช้ประโยชน์ในการช่วยชีวิตบุคคลอื่นต่อไปได้ หรือเป็นการบริจาคอวัยวะโดยหน้าที่ไม่ต้องขอก่อน เพื่อที่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถนำอวัยวะไปใช้ประโยชน์ได้ทันเวลา

อย่างไรก็ตาม ทราบว่ายังมีการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นี้ เนื่องจากมองว่าขัดสิทธิมนุษยชน จึงได้ให้คำแนะนำในการกำหนดในอีกมาตราว่า บุคคลที่ไม่พร้อมบริจาคอวัยวะสามารถแสดงความจำนงในการถอนตัวได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งหากร่างพ.ร.บ.นี้แล้วเสร็จ ผ่านการประชาพิจารณ์ก็พร้อมที่จะผลักดันเข้าสู่สภาฯผ่านออกมาเป็นกฎหมาย โดยเชื่อว่าคนไทยทุกคนน่าจะสนับสนุนร่างกฎหมายนี้

157122100248

ด้าน ศ.กิตติคุณ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล ประธานคณะกรรมการอำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย กล่าวว่า ในปี 2561 มีผู้ป่วยบริจาคอวัยวะ 261 ราย ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาค 585 ราย มีผู้รอรับบริจาคอวัยวะ 6,401 ราย โดย 95% เป็นผู้ป่วยรอไต อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียชีวิตระหว่างรอรับบริจาคอวัยวะ 180 ราย คิดเป็น 3% ของผู้ที่รอรับการบริจาค และข้อมูลของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย วันที่ 30 ก.ย.2562 มีผู้ป่วยที่ลงทะเบียนรอรับการบริจาคอวัยวะจากผู้ที่เสียชีวิตด้วยภาวะสมองตายจำนวน 6,311 ราย ซึ่งอัตราการบริจาคอวัยวะของคนไทยแม้แนวโน้มจะดีขึ้น แต่ยังถือว่าต่ำอยู่ที่ 3.9 รายต่อประชากร 1 ล้านคน จึงอยากเชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคอวัยวะซึ่งจะถือเป็นมหากุศล

นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย กล่าวว่า โครงการบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติฯ ในการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2562 -4 พ.ค.2563 มีเป้าหมายผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะจำนวน 1.5แสนคน ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะทั่วประเทศ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ จึงได้เพิ่มช่องทางการบริจาค ผ่านบริจาคอวัยวะออนไลน์ ในเว็บไซต์ www.organdonate.in.th และบริจาคอวัยวะผ่าน mobile Application ชื่อ บริจาคอวัยวะ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะโดยผู้สนใจสามารถกรอกข้อมูลผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน หลังจากนั้นระบบจะส่ง SMS และอีเมล์แจ้งผู้แสดงความจำนงไร้ญาติผู้รับบริจาคอวัยวะต่อไป