'ชลน่าน' ดักทางฝ่ายรัฐบาล อย่าปิดอภิปราย เสี่ยงถูกครหาปิดกั้นทำหน้าที่

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิป ฝ่ายค้าน) เปิดเผยถึงการประชุม่ร่วมกันระหว่างตัวแทนวิปรัฐบาล และ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เพื่อพิจารณาถึงการ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วันที่ 17 - 19 ตุลาคม นี้ว่า เป็นสิ่งที่รับได้ เมื่อพรรคฝ่ายค้านได้รับเวลา 18 ชั่วโมง แม้ก่อนหน้านี้จะต่อรองเวลา จำนวน 20 ชั่วโมง ส่วนการจัดสรรเวลาให้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ต้องพิจารณาและจัดสรรกันอีกครั้ง เบื้องต้นพรรคเพื่อไทย จะได้เวลา 9 ชั่วโมง และ มีส.ส.ที่จะอภิปรายรวม 66 คน ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ ทราบว่าเดิมมี 30 คน แต่อาจปรับลดเหลือ 20 - 29 คน เป็นต้น

ส่วนกรณีที่การหารือตั้งเงื่อนไขว่าหาก ส.ส.ฝั่งใดที่ประท้วง จะหักเวลาของฝั่งนั้น เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะใช้เวลาให้คุ้มค่า ไม่มีตีรวน เช่น การขอนับองค์ประชุม เนื่องจากมองว่าไม่เกิดประโยชน์ ขณะที่กรณีที่ฝ่ายรัฐบาลอาจใช้วิธีขอปิดการอภิปราย เพื่อยุติการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ นั้น ตนมองว่าแม้เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ไม่เหมาะสม เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการปิดกั้นการทำหน้าที่ของ ส.ส. ได้

นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่าสำหรับกรอบการอภิปรายของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน เบื้องต้นได้วางกรอบไว้ ตาม 6 ยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ในรายการการเสนอสาระของร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 โดยจะชี้ให้เห็นถึงประเด็นการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เหมาะสมและไม่ตอบโจทย์ต่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ ขณะนี้กระทรวงหรืองบประมาณที่อาจต้องพิจารณารายละเอียดเชิงลึกนั้น อาทิ กระทรวงกลาโหม , งบกลาง, การจัดสรรงบประมาณส่วนกองทุนหมุนเวียน และ งบในส่วนของการบูรณาการที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

สำหรับบุคคลของพรรคเพื่อไทยที่จะเริ่มต้นอภิปราย คือ นายสมพงษ์​ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเน้นการอภิปรายภาพกว้าง ต่อด้วยผู้นำการอภิปรายที่จะขยายความและลงรายละเอียดต่อจากนายสมพงษ์ จากนั้นจะเป็นลำดับของ ส.ส.​ที่จะอภิปรายเพื่อลงรายละเอียดในรายกระทรวง และตามยุทธศาสตร์

นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงการลงมติในวาระแรกของการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ด้วยว่าตนตอบไม่ได้ว่าส.ส.พรรคฝ่ายค้านจะลงมติเป็นอย่างไร เบื้องต้นต้องรอฟังการอภิปรายและชี้แจงจากฝั่งของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย จากนั้นช่วงวันที่ 19 ตุลาคมจะสามารถให้คำตอบได้ว่าจะลงมติอย่างไรในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามหากเสียงข้างมากของสภาฯ ลงมติรับหลักการวาระแรก ในการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อพิจารณารายละเอียดนั้น ในส่วนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เป็นกมธ.ฯ สามารถพิจารณาลงรายละเอียดได้ แม้จะตัดงบประมาณไม่ได้ แต่เชื่อว่าเมื่อได้พิจารณาเป็นรายมาตราจะมีการขุดคุ้ยรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งผลการพิจารณาวาระสอง ส.ส.พรรคฝ่ายค้านอาจจะไม่เห็นด้วยในบางมาตรา หรือในวาระสาม ซึ่งเป็นวาระเห็นชอบ ซึ่งมีความสำคัญ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านอาจลงมติไม่เห็นชอบด้วยได้