“นิสสัน ลีฟ” พิชิตอินทนนท์ ... ขับสนุก ไปถึง กลับได้ : Hot Test

“นิสสัน ลีฟ” พิชิตอินทนนท์ ... ขับสนุก ไปถึง กลับได้ : Hot Test

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทยอยกันมาเรื่อยๆ  แม้จะมีขนาดตลาดที่เล็กมาก และยังมีความกังขาหลายๆ เรื่องในกลุ่มผู้บริโภคก็ตาม แต่วันนี้เราเห็นได้ว่ามีหลายรุ่น หลายยี่ห้อที่เข้ามาเปิดตลาดในไทย

       อีวี ที่จำหน่ายในบ้านเราวันนี้ มีทั้งรถราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท อย่างฟอมม์ ขยับขึ้นมาระดับล้านต้นๆ อย่าง เอ็มจี แซดเอส อีวี มาถึงกลุ่มระดับ 2 ล้านบวกลบ ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นนิสสัน ลีฟ ฮุนได ไอออนิค ฮุนได โคน่า เกีย โซล อีวี และกลุ่มราคาหลายล้านบาท อย่างจากัวร์ ไอเพซ อาวดี้ อี-ตรอน และล่าสุดคือ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ3เอส ที่ประกาศเปิดราคาไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมานี้เอง และปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ก็คงจะได้เห็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิว ซี และ อีวีตัวแรง อย่างปอร์เช่ ไทคานน์ ตามกันเข้ามา

157119773310

        สำหรับ  “นิสสัน ลีฟ” ต้องถือว่าเป็น อีวี ที่ทำตลาดเชิงพาณิชย์อย่างจริงจังค่ายแรก และขยายตลาดไปทั่วโลก โดยตั้งแต่ปีที่แล้วยอดขายสะสมทะลุ 3.1 แสนคันไปแล้ว ปัจจุบันน่าจะเกินกว่าตัวเลขนี้ไปเยอะ เพราะว่า เจนเนอเรชั่นที่ 2  ซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบัน ได้รับการตอบรับด้วยอัตราเร่งที่รวดเร็วกว่า เจนเนอเรชันแรก ทั้งจากการพัฒนาของตัวถรเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ทำให้ อีวี ดูกลมกลืนไปบนท้องถนน ปะปนกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป สมรรถนะที่ดีขึ้น เทคโนโลยีที่ดีขึ้น และแน่นอนความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคที่ดีขึ้น และความเข้าใจ การยอมรับของผู้บริโภคที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

157119777712

       ในบ้านเรา ลีฟ เปิดตลาดมาพักใหญ่แล้ว แต่ยอดจองก็ไม่สูงนักทำได้ใกล้เคียงหลักร้อย ซึ่งทางผู้บริหารนิสสันก็ยอมรับว่าคงจะหวังยอดขายจำนวนมากไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมากขึ้น และก็คงมองหาลูกค้าองค์กร หรือว่าหน่วยงานรัฐ เพราะน่าจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่าลูกค้าทั่วไป กับค่าตัว 1.99 ล้านบาท 

       ที่ผ่านมา นิสสันมีกิจกรรมกับลีฟอย่างต่อเนื่อง ทั้งเชิงข่าวสารหรือด้านเทคนิค เช่น การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ให้ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า การติดตั้งจุดชาร์จในบ้านหรือสถานีชาร์จสาธารณะ

       การทดลองขับก็เป็นอีกกิจกรรมที่จำเป็นจะต้องมีสำหรับสิ่งที่ยังเรียกว่าเป็นของใหม่ในตลาด ก่อนหน้านี้นิสสันจัดกิจกรรมทดสอบสั้นๆ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครชัยศรี-กรุงเทพฯ บวกกับสถานที่น่าสนใจ 4-5 แห่งในเมืองหลวง 

       ล่าสุดเป็นการลองในพื้นที่ที่แตกต่าง ไปแอ่วเหนือ กับเส้นทางชานเมืองเชียงใหม่ จอมทอง ดอยอินทนนท์ ไปแล้วย้อนกลับเส้นทางเดิม รวมระยะทาง 208 กม.

157119772836

       แน่นอนเส้นทางแบบนี้จะทำให้ได้คำตอบที่ต้องการอย่างน้อย 3 อย่าง คือ สมรรถของรถกับเส้นทางที่ต้องไต่ขึ้นที่สูง การควบคุมรถในเส้นทางขึ้น-ลง เขาและเต็มไปด้วยโค้ง และ พลังงานไฟฟ้าเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ 

       ลีฟ ใช้พลังงานจากแบตเตอรีลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งกำลังไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ระยะทางสูงสุดในการใช้งานต่อการชาร์จไฟเต็มที่ 1 ครั้ง 311 กม.

       ย้ำกว่าเป็นระยะทางสูงสุด หมายถึงว่าจะขับเลี้ยงรถอย่างไรก็ไม่มีทางเกินระยะนี้ แต่การขับจริงน่าจะได้น้อยกว่านี้ แต่ผมก็ว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในพื้นที่เขตเมือง หรือว่าออกต่างจังหวัดที่ไม่ไกลนัก และมีเส้นทางที่แน่นอน 

       สเปคของรถหากเทียบกับเจเนอเรชั่นแรก ก็จะเห็นได้ว่าพัฒนาขึ้่นอย่างชัดเจน เช่น แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% แรงบิดเพิ่มขึ้น 26% 

1571197731100

       การขับขี่บนเส้นทางไฮเวย์ และถนนทั่วไปในเชียงใหม่ ลีฟ ทำความเร็วได้กลมกลืนกับรถอื่นๆ จะขับช้าหรือขับเร็วก็ได้เช่นกัน แต่อัตราเร่งเป็นจุดเด่นเพราะ 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.9 วินาที นั่นทำให้มันมีความคล่องตัวเมื่อต้องเปลี่ยนช่องทางไปมา หรือว่าต้องการเร่งแซง 

       ลีฟยิ่งฉายความโดดเด่นในเส้นทางขึ้นดอย ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทางแบบ 2 เลนสวนทาง  เพราะการมีทั้งโค้งทั้งเนิน การที่จะแซงรถคันหน้าจะมีเวลาและระยะทางไม่มากนักต้องทำด้วยความรวดเร็ว และด้วยจุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าทีไ่ม่ต้องรอรอบจนเกิดจังหวะหน่วงเหมือนเครื่องยนต์และการสูญเสียกำลังผ่านเกียร์ ทำให้มันเร่งแซงได้รวดเร็ว แม้จะเป็นช่วงขึ้นเนินก็ตาม กำลังมาได้รวดเร็วทันใจ เป็นจุดที่เชื่อว่าหลายคนที่ได้ลองจะชอบในจุดนี้ 

157119773254

       ช่วงล่างเป็นอีกสิ่งที่ลีฟทำได้ดี การยึดเกาะถนน การผ่านโค้งต่างๆ ให้อารมณ์สปอร์ต เข้าได้เนียน ออกได้เร็ว ช่วยให้รถขับสนุก ซึ่งนอกจากการเซ็ทช่วงล่างแล้ว การเป็นรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำก็ช่วยเพิ่มความโดดเด่นตรงนี้ได้อีกทาง 

       ทั้งนี้อารมณ์โดยรวมของช่วงล่างค่อนข้างกระด้าง ถ่ายทอดสภาพถนนให้ผู้ขับรู้สึกได้ และ่ช่วยให้รถเกาะถนนได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบ ส่วนใครที่ชอบรถนุ่มๆ ก็อาจจะบอกว่ามันแข็งเกินไป 

       พวงมาลัยแม่นยำ การเข้าออกโค้ง ไม่ต้องแก้องศาการหมุน น้ำหนักดูเบาไปหน่อย ออกแรงไม่มากสบายมือ แต่ผมชอบที่จะให้มันแข็งกว่านี้อีกสักหน่อย 

157119773099

       โดยรวมแล้ว นิสสัน ลีฟ ทำรถออกมาได้ดี รวมไปถึงการเก็บเสียงในห้องโดยสาร มันไม่ได้เงียบกริบ ยังได้ยินเสียงยาง เสียงลมเข้ามาบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่เงียบ ยิ่งหากเปิดเพลงฟังเพลินๆ ก็กลบเสียงภายนอกได้หมด 

       ทั้งนี้ ลีฟ ติดตั้งยางขนาด215/50 R 17

       ด้วยความสนุกของรถกับเส้นทางที่สวยงาม เมื่อขึ้นถึงยอดดอยอินทนนท์ ตัวเลขหน้าปัดระบุว่าเหลือแบตเตอรี 27% ให้ใช้กับอีกครึ่งทางที่เหลือหรือ 104 กม. เพราะต้องย้อนกลับเส้นทางเดิม

       ไม่ต้องตกใจไปครับ เพราะพอเริ่มมีทางลงมากกว่าทางขึ้น แม้ว่าจะไม่ชันมากนักก็ตาม แต่เมื่อเรายกเท้าออกจากคันเร่งหรือใช้เบรก ก็จะเห็นการชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าไปแบตเตอรี เมื่อไต่ขึ้นเนินทางหรือทางราบก็ดึงไฟฟ้าไปใช้ สลับกันไปมาอย่างนี้ โดยช่วงที่มีไฟฟ้าอยู่ในแบตเตอรีสูงสุดคือ 52% 

        แต่เอาเป็นว่าทางลงจากยอดดอยลงมาถึงถนนหมายเลข 1009 ระยะทางประมาณ 50 กม. เราได้กำไร เพราะเมื่อถึงถนน 1009 เหลือแบตเตอรี 47% และเมื่อกลับถึงที่หมาย ครบ 208 กม. ยังมีแบตเตอรีเหลือ 20%

157119773920

       ลีฟ มีระขับเคลื่อนให้เลือกใช้สำหรับเดินหน้า คือ D และ B ซึ่ง D ก็ความหมายเหมือนการขับขี่ทั่วไป แต่ B ระบบจะเพิ่มการหน่วงมากขึ้น เหมาะกับการขับลงเนิน เพราะจะทำให้ชาร์จไฟกลับได้เร็วขึ้น ยิ่งถ้าเลือกโหมด eco ประกอบด้วย ก็จะทำให้ชาร์จเร็วขึ้นไปอีก

       อีกสิ่งที่จะได้คือ ความปลอดภัย เพราะรถจะมีอาการเหมือนกับเอนจิ้น เบรก ของรถที่ใช้เครื่องยนต์ ทำให้ไม่ต้องใช้เบรกมากเกินไป แต่ถ้าหากเลือกใช้ D แล้วมีความรู้สึกเหมือนมีเอนจิ้น เบรกไหม ตอบตรงนี้ว่ามีครับ นี่ก็ถือเป็นอีกเรื่องดีในการที่ทำให้การขับขี่รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่รู้สึกแตกต่างจากรถที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป ไม่ต้องกังวลว่าขับลงเขาลงเนิน แล้วรถจะพุ่งจนน่าหวาดเสียว 

157119774151

       อีกระบบหนึ่งที่เป็นจุดขายของ ลีฟ ก็คือ อี แพดเดิล ที่สามารถควบคุมการเพิ่ม-ลด ความเร็ว การชะลอ รวมไปถึงการที่หยุดสนิทด้วยแป้นคันเร่งแป้นเดียว ไม่ต้องยุ่งกับแป้นเบรก โดยมีสวิทช์ให้เลือกเปิด-ปิด ระบบนี้ใกล้ๆ คันเกียร์

       หลักการทำงานก็ง่ายๆ ครับ ถ้าต้องการเพิ่มความเร็วก็กดแรงลงไปที่แป้นคันเร่งเหมือนรถปกติ แต่เมื่อผ่อนแรงกดระบบจะทำเหมือนระบบเบรกทำงานไปในตัว ความเร็วจะชะลอลง และหากถึงระดับที่ยกเท้าออกจากคันเร่งเลย รถก็ละความเร็วลงจนหยุดสนิท เมื่อต้องการเดินทางต่อก็กดคันเร่งลงไปใหม่ 

157119774067

       ระบบนี้บางคนบ่นให้ฟังว่าขับแล้วไม่ลื่นไหลนุ่มนวล เพราะมีอาการหัวทิ่มบ้างอะไรบ้าง แต่ตรงนี้ผมว่าไม่ได้อยู่ที่รถ แต่อยู่ที่คนครับ นั่นคือต้องรู้จักเลี้ยงคันเร่งให้เหมาะสม มองทางไปด้านหน้าไกลๆ เมื่อเห็นมีทางโค้งก็ค่อยๆ ถอนคันเร่ง ถ้าโค้งไม่มากก็ไม่ต้องถอนมาก ถ้าโค้งลึกก็ถอนมากหน่อย หรือเมื่อมองไปข้างหน้าเห็นไฟแดงหรือรถติดก็ถอนเร็วหน่อย แต่นุ่มนวล หมายถึงไม่ยกเท้าออกจากคันเร่งทันทีทันใด แค่นี้ก็เดินทางได้อย่างนุ่มนวล 

       ซึ่งผมก็ลองใช้ระบบนี้ ซึ่งทำงานได้ดี ไม่มีปัญอะไร ออกจะช่วยให้สบายขึ้นด้วยซ้ำกับการขับขี่เส้นทางบนเขา เพราะไม่ต้องย้ายเท้าออกจากแป้นคันเร่งตลอดเส้นทาง 

       ถือว่าลีฟเป็นรถที่ดี ขับสนุก ใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง แม้จะไม่ใช่กับทุกคนหรือทุกเส้นทางก็ตาม แต่ปัญหาใหญ่อย่างเดียวของมันตอนนี้ก็คือ ราคาค่าตัวนั่นแหละครับ 

***

157119774696

157119774555  

157119773878  

157119774387