อสังหาฯขาลงพ่นพิษ ‘อนันดา’ เลื่อนเปิด 4 โครงการ 2.2 หมื่นล้าน

อสังหาฯขาลงพ่นพิษ ‘อนันดา’ เลื่อนเปิด 4 โครงการ 2.2 หมื่นล้าน

“อนันดา” ไม่ฝืนตลาด เลื่อนเปิด 4 โปรเจค 2.2 หมื่นล้านไปเป็นปีหน้า หลังภาพรวมอสังหาฯชะลอ เดินเกม “ระมัดระวัง” ยอมรับกังวลมู้ดผู้บริโภคไม่จ่ายเหตุซึมซับข่าวลบเศรษฐกิจ ไตรมาส 4 เปิดอีก 4 โครงการชูราคาต่ำแสนต่อตร.ม. เฉือนกำไรดันยอด

จากสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่งสัญญาณชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะหลังจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนโครงการเปิดขายใหม่ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ปรับตัวลดลง สวนทางกับสต็อกอสังหาฯที่ปรับตัวสูงขึ้น

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หนึ่งในบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ที่สร้าง ‘จุดขาย’ ในฐานะเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า นับตั้งแต่วันเริ่มต้นธุรกิจในปี 2542 ปัจจุบันพัฒนาโครงการไปแล้วมากถึง 64 โครงการอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด 48 สถานี จากสถานีรถไฟฟ้าที่ให้บริการแล้วทั้งหมด 109 สถานี และในปีนี้ย่างเข้าสู่ปี 20 ของ “อนันดา” ซึ่งเป็นปีที่ไม่ง่าย จากทิศทางตลาดอสังหาฯขาลง

โดยเมื่อต้นเดือนส.ค.ที่ผานมา อนันดาฯได้ยกเลิกการขายโครงการ “ไอดีโอ คิว พหลฯ-สะพานควาย” บิ๊กโปรเจค 1 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับโครงการใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น หลังราคาขายต่อตารางเมตร(ตร.ม.)สูงกว่าราคาตลาด กระทบต่อยอดขาย  

ล่าสุดวานนี้  (15 ต.ค.) นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2562 ว่า จะเลื่อนเปิดตัวคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท นอกจากโครงการ ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย อยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ที่ประกาศเลื่อนโครงการไปก่อนหน้านี้แล้ว อีก 3 โครงการได้แก่ ทำเลสุขุมวิท 59, ทำเลลำสาลี และทำเลทองหล่อ ออกไปปี2563

“จากนี้ไปเราพยายามดูสถานการณ์ตลาดมากขึ้น ตัวอย่างโครงการ ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย ชัดเจนว่าเราตั้งใจว่าใช้แบรนด์ไอดีโอ คิว เจาะตลาดหรู แต่ตลาดต้องการราคาที่ย่อมเยาว์ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้โครงการที่สะพานควายต้องเลื่อนเปิดโครงการไปเป็นต้นปีหน้า”

  • ชูระมัดระวัง-ไม่ฝืนตลาด

นายชานนท์ ยังยอมรับว่า การดำเนินธุรกิจในขณะนี้ต้องระมัดระวังมาก ต้องเน้นจับตลาดให้แม่นยำ เพราะถ้าฝืนตลาดมากไป จะเหนื่อยเกิน เพราะคนบริโภคข่าวลบทุกวันมันซึมไปเรื่อยๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม แทนที่เศรษฐกิจไม่ถดถอยจะถดถอยได้ เราจึงต้องคอยดูสถานการณ์ในตลาดมากขึ้น ดังนั้นราคาคอนโดในโครงการใหม่ที่ออกมาโดยเฉพาะ ที่จรัญสนิทวงศ์ จึงสามารถทำราคาขายย้อนกลับ 5-6 ปีในราคาที่ถูกลง ส่วนหนึ่งเพราะได้รับความร่วมมือจากผู้รับเหมาทำต้นทุนให้ต่ำที่สุด(Lean)ตั้งแต่การออกแบบ ถึงการก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม แม้จะเลื่อนเปิดโครงการไป 4 โครงการ แต่ในช่วงไตรมาส4 ของปีนี้ ยังเตรียมเปิดขายโครงการใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.โครงการ ไอดีโอ จุฬา-สามย่าน มูลค่า 4,846 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาทต่อยูนิต จะเริ่มก่อสร้างในปี 2563 และมีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2565

2.โครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท–พระราม4 มูลค่า 4,087 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาทต่อยูนิต เริ่มก่อสร้างในปี 2563 และมีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2565

3.โครงการ ไอดีโอ จรัญฯ 70–ริเวอร์ มูลค่า 3,500 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งจะเปิดจองผ่าน Online Booking 5 พ.ย.นี้ และ

4.โครงการ คิว ประสานมิตร เป็นคอนโด ไลว์ไรส์ มูลค่า 712 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 149,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งจะทยอยเปิดขายอย่างเป็นทางการ พ.ย.นี้ โดยตั้งเป้าหมายจะมียอดขาย (Presale) รวมในช่วงวันเปิดตัวโครงการที่ประมาณ 5,200 ล้านบาท หรือประมาณ 40% ต่อโครงการ

  • กังวลมู้ดผู้บริโภคไม่จ่าย

“ขณะนี้ปัญหาคือภาวะอารมณ์ของคนซื้อมากกว่า ส่วนการที่แบงก์ชาติออกแอลทีวีมาถือเป็นเรื่องที่ดีในการแตะเบรก เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงจริง ซึ่งตอนนี้เงินคงคลังประเทศสูง ผมไม่อยากไปกดดันแบงก์ชาติเกินไป เราควรจะบาลานซ์ตัวเองให้ดีด้วยการรู้จักลูกค้าให้มากขึ้น แทนที่จะลดแลกแจกแถมเหมือนขายเหล็ก เนื้อหมูชั่งกิโลขาย ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการลดราคา แต่แง่กลยุทธ์ราคาถือเป็นวิธีหนึ่งในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด เรายอมลดราคาบ้างแต่ไม่ถึงกับขาดทุนจนไม่เหลืออะไร”

  • เล็งลดเป้ายอดขาย-โอนฯ

นายชานนท์ ยังกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขาย (Presale) ยอดโอนกรรมสิทธิ์ ในปี 2562 สำหรับเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 ตั้งไว้ที่ 29,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกมียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 10,080 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 3/2562 อยู่ระหว่างสรุปผล และจะประกาศงบไตรมาส 3/2562 ในวันที่ 12 พ.ย.นี้

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2562 จะเติบโตสูงสุดของปี 2562 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) รวม 33,000 ล้านบาทจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/2562 จะมีโครงการคอนโดสร้างเสร็จใหม่รวม 4 โครงการ ล่าสุดบริษัทยังมีสินค้าพร้อมโอน(สต็อก) รวมมูลค่ารวม15,000 ล้านบาท

ส่วนเป้าหมายยอดขายรวมในปี 2562 ตั้งไว้ที่ 28,300 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) มียอดขายสะสม 15,000ล้านบาท จากการขายโครงการใหม่ และการขายโครงการเดิมที่มีอยู่ในมือ ทั้งนี้ ในปี 2562 ได้ปรับการเปิดขายโครงการใหม่เหลือ 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 16,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่จะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 38,000 ล้านบาท