ก.ล.ต. เข้าร่วมประชุมสมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินเอเชีย

ก.ล.ต. เข้าร่วมประชุมสมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินเอเชีย

เลขาธิการ ก.ล.ต. เข้าร่วมการประชุมสมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินเอเชีย (ASIFMA) และร่วมเสวนาหัวข้อ “Fund Passporting and Fund Connect Schemes: What will make them work in Asia” กับผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมอง

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าร่วมการประชุมประจำปี Annual Conference 2019 ของสมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินเอเชีย (Asia Securities Industry & Financial Markets Association: ASIFMA) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 โดยร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนาหัวข้อ “Fund Passporting and Fund Connect Schemes: What will make them work in Asia” ร่วมกับผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ อีก 4 ประเทศ อาทิ Mr. Rob Everett, Chief Executive จาก Financial Markets Authority ประเทศนิวซีแลนด์ และ Mr. Gerard Fitzpatrick, Senior Executive Leader จาก Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ประเทศออสเตรเลีย

โดยเลขาธิการ ก.ล.ต. ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในฐานะที่ ก.ล.ต. เป็นประธานของ Asia Region Funds Passport (ARFP) และประธานของ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) พร้อมทั้งแจง้ความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการ ARFP ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 ซี่งประเทศสมาชิกประกอบด้วยประเทศออสเตรเลีย ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี และนิวซีแลนด์ ขณะที่โครงการ ASEAN Collective Investment Scheme (ASEAN CIS) ภายใต้การสนับสนุนของ ACMF นั้น ขณะนี้มีประเทศไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ร่วมลงนามใน MOU แล้ว และคาดว่าช่วงต้นปี 2563 ประเทศฟิลิปปินส์จะมีการลงนามใน MOU เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มอีก

พร้อมกันนี้ เลขาธิการยังได้ร่วมตอบคำถามถึงประโยชน์ของการเสนอขายกองทุนรวมข้ามประเทศว่า จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของประเทศสมาชิก ในขณะเดียวกัน ผู้ลงทุนจะมีผลิตภัณฑ์ในการลงทุนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะช่วยเพิ่มพูนทักษะของผู้จัดการกองทุน และความร่วมมือของประเทศสมาชิก เพื่อให้การเสนอขายกองทุนรวมระหว่างประเทศมีการพัฒนาต่อไปอีกขั้น

“การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในภูมิภาคให้มีความสอดคล้องกัน จะเป็นการช่วยส่งเสริมให้ตลาดมีการพัฒนาและยังเป็นการลดความเสี่ยงที่ทำให้มาตรฐานและกฎเกณ์ระหว่างประเทศไม่เป็นแนวทางเดียวกัน (market fragmentation) ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การที่ ก.ล.ต. เข้าร่วมในกรอบความร่วมมือด้านการเสนอขายกองทุนรวมข้ามประเทศทั้ง ARFP และ ASEAN CIS จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนไทยและขยายตลาดให้แก่ บลจ. ไทย และเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า ธุรกิจจัดการลงทุนของไทยได้มาตรฐานทัดเทียมสากลอีกด้วย”