“Chivit-D by SCG” ชุมชนสูงวัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยเกษียณ

สคช.คาดการณ์ว่าในปี 2583 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปสูงถึง 20.5 ล้านคน หรือ 32% ของประชากรทั้งสิ้นจำนวน 66.3 ล้านคน ขณะที่ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะแนวคิด “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย” เพื่อตอบรับสังคมสูงวัยที่กำลังมาถึงในอนาคต

ขณะที่ สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ.2557 พบว่า เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความชุกของภาวะสมองเสื่อมก็เพิ่มมากขึ้นด้วย เทียบเท่าผู้สูงอายุวัยเกิน 60 ปี ทุกๆ 12 คน จะพบเป็นโรคสมองเสื่อม 1 คน ดังนั้น แนวคิด “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย” จึงถือเป็นแนวทางที่ผู้สูงอายุ หรือกำลังก้าวเข้าสู่วัยเกษียณต้องเริ่มหันมาให้ความสำคัญ

โดยมีวิธีปฏิบัติผ่าน 4 Smart ได้แก่ 1) Smart Walk คือ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 2) Smart Brain คือ การดูแล ฝึกฝนทักษะทางสมอง 3) Smart Sleep & Emotional คือ การนอนหลับอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และ 4) Smart Eat คือ การกินอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม เน้นผัก ผลไม้ เลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง

หากเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย องค์การสหประชาชาติ ระบุว่าประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 3 จากประเทศที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมากที่สุด รองจากญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ล่าสุด ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซี  เปิดตัวร้าน “Chivit-D by SCG” (ชีวิตดี บาย เอสซีจี) ไลฟ์สไตล์ชอปและคอมมูนิตี้ สำหรับผู้สูงอายุที่ยังมีความแอคทีฟแห่งแรกของเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “ตื่นมาด้วยรอยยิ้ม กับชีวิตดี ที่รออยู่” ในพื้นที่ 500 ตร.ม. บริเวณชั้น 6 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน

วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า เอสซีจีได้ทำการศึกษาและวิจัยพัฒนาสินค้า SCG Eldercare เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุมาตลอด 9 ปี และพบว่า ความต้องการลูกค้ามีมากกว่าสิ่งที่เคยเสนอไว้ ลูกค้าต้องการอะไรที่ตอบโจทย์ อยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่เหงา ไม่เป็นภาระของลูกหลาน และอยากใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่ได้ด้วยตัวเองที่บ้าน (Aging in Place)

“ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้แนะแนวคิด “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย” ซึ่งในความต้องการของผู้สูงอายุตั้งแต่เช้าจนเย็นหากศึกษาลึกๆ แล้วเราจะเห็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น วันธรรมดาเขาจะมีเวลาว่าง และเขาก็อยากจะออกมาข้างนอก มาหาสังคม เพราะการอยู่บ้านคนเดียวทำให้เหงา แต่หากเขาออกมาข้างนอก จะมีสถานที่ที่เป็นคอมมูนิตี้สำหรับพวกเขา มีกิจกรรมต่างๆ ให้เรียนรู้หรือไม่” วชิรชัย กล่าว

ดังนั้น เอสซีจี จึงใช้พื้นที่ภายในร้านชีวิตดี Chivit-D by SCG จัดโซนสำหรับกิจกรรม รวมถึงสินค้า บริการ ตั้งแต่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการเตรียมพร้อม เพิ่มความปลอดภัย และอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ป้องกันอุบัติเหตุภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์เพิ่มความปลอดภัยในห้องน้ำ ลิฟต์บันได ผลิตภัณฑ์นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รองเท้าเพื่อสุขภาพ และอุปกรณ์ช่วยผยุงในการเดิน

โดยส่วนหนึ่งเป็นสินค้าจากเอสซีจี เช่น กลุ่มสินค้าและบริการจาก SCG eldercare อาทิ บริการปรับปรุงที่อยู่อาศัย สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย พื้นที่ลดแรงกระแทกแบบสุญญากาศ Peel & Place ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เปิดตัวมาเมื่อไม่นานมานี้ สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็วบนพื้นที่เดิมโดยไม่ต้องรื้อพื้นเก่าออก, Do care Protect อุปกรณ์มอนิเตอร์ความปลอดภัยผู้สูงอายุตอนล้มผ่านเทคโนโลยี IoT และ Go Live Clip เข็มกลัดอัจฉริยะตรวจจับการลื่นล้มอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าของพาร์ทเนอร์ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานศิลป์สร้างสุข ถ่ายภาพ ผ้าปิดตาสมุนไพร โยคะ ฯลฯ ที่จัดให้ผู้สูงวัยได้ทำร่วมกัน สร้างสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ (ทั้งฟรีและเสียค่าใช้จ่าย)

“เอสซีจี มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ โดยชีวิตดี บาย เอสซีจี จะเป็นพื้นที่สร้างเสริมพลังกายและพลังใจให้กับกลุ่มผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและใช้ช่วงวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ” วชิระชัย กล่าว

---------------------------

เกษียณอย่างไรให้สำราญ

---------------------------

หม่าม้า - เดือนเพ็ญ พรหมพระศร วัย 67 ปี คุณแม่ของ โค้ด - อรรถพล โพธิ์หาญรัตนกุล ตัวแทนคู่แม่ลูกคนดังจากช่อง Youtube รายการ “เกษียณสำราญ” ที่มียอดติดตามมากกว่า 1.8 แสนคน โดยมี ว่าน – ธนกฤต พานิชวิทย์ และ แม่น้ำ - วานิศา พานิชวิทย์ ร่วมดำเนินรายการ

หม่าม้า ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบคนสูงวัยให้มีความสุขว่า การได้ทำช่องยูทูปร่วมกับลูกๆ สนุกมากได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตลอดชีวิตของเรา เพื่อให้คนอื่นได้ใช้ชีวิตบั่นปลายอย่างมีความสุข ชีวิตประจำวันชอบออกกำลังกาย 4-5 วันต่อสัปดาห์ เริ่มไปโยคะตอน 63 ปี หรือ 4 ปีที่แล้ว พออายุเรามากขึ้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือ การออกกำลังกาย พยายามทำทุกวันเหมือนกินข้าว แล้วจะมีบั่นปลายชีวิตที่ดี ไม่เป็นภาระของคนอื่น นอกจากนี้ การออกกำลังกายทำให้เรามีสังคม

“ผู้สูงวัยทุกคนต้องมีกิจกรรม การที่อยู่บ้านจะทำให้เป็นซึมเศร้า เพราะไม่ได้เห็นใครเลย ไม่เห็นว่าคนอื่นแตกต่างจากเราอย่างไร เขาใช้ชีวิตอย่างไร แต่พอมีกิจกรรมทำให้มีเพื่อน มีสังคม ได้แลกเปลี่ยนพูดคุย คนเราต้องมีเป้าหมายของชีวิต เพราะทุกๆ วันต้องมีความสุข” เดือนเพ็ญ กล่าว

ด้าน แม่น้ำ กล่าวเสริมว่า ส่วนตัวชอบทำขนมไทย เบเกอรี่ ปัจจุบันเริ่มออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ ทั้งโยคะ โยคะฟลาย บอดี้คอมแบต พอได้ไปเล่นเรารู้ว่าสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน อายุเป็นเพียงตัวเลขเราอย่าคิดว่าเราแก่ เกษียนก็แค่ 60 ปี ให้คิดว่าเราเป็นผู้ใหญ่ตอนปลาย อยากทำอะไรก็ทำ