“ไทยแอร์เอเชีย”ปั้นเมนูลอยฟ้าดันรายได้

“ไทยแอร์เอเชีย”ปั้นเมนูลอยฟ้าดันรายได้

“ไทยแอร์เอเชีย” ชูกลยุทธ์ปั้นเมนูลอยฟ้าใหม่ทุกไตรมาส ดันรายได้เสริมจากอาหารกับเครื่องดื่มโต 20% ในปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า เตรียมผนึก 2 พันธมิตรใหม่เชนดังร้านอาหารไทย-เทศเพิ่ม แก้เพนพอยต์ภาพจำคนส่วนใหญ่คิดว่าอาหารบนเครื่องบินไม่อร่อยแถมแพง

นางสาวอรอนงค์ เมธาพิพัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าและบริการบนเครื่องบิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การรุกเพิ่มรายได้จากบริการเสริมต่างๆ เช่น รายได้จากการเก็บค่าโหลดน้ำหนักสัมภาระ และรายได้จากการขายอาหารกับเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของไทยแอร์เอเชียในการผลักดันภาพรวมรายได้ให้เติบโต โดยปัจจุบันรายได้จากบริการเสริมคิดเป็น 19% ของรายได้ทั้งหมดซึ่งปี 2561 อยู่ที่กว่า 4 หมื่นล้านบาท และกว่า 7% ของรายได้ทั้งหมดเป็นรายได้จากการขายของที่ระลึก สินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และอาหารกับเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน

“รายได้เสริมจากการขายอาหารกับเครื่องดื่มบนเที่ยวบินถือเป็นจุดที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทุกปี และจากเป้าหมายผู้โดยสารของไทยแอร์เอเชียปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 23.2 ล้านคน คาดว่าจะทำให้ยอดขายอาหารกับเครื่องดื่มบนเที่ยวบินปีนี้เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งเติบโตถึง 29% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการนำเสนอเมนูใหม่ต่อผู้โดยสาร สำหรับไตรมาส 4 หรือ ต.ค.-ธ.ค.นี้ ไทยแอร์เอเชียได้นำเมนูอาหารภายใต้แนวคิด “ไทย สตรีท ฟู้ด” มาเสนอขายบนเที่ยวบิน มี 3 เมนูราคาจับต้องได้ ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ ผัดไทยสูตรโบราณห่อไข่, อาฟเตอร์ยูขนมปังสังขยาไข่เค็มและช็อกโกแลต คาดมียอดขาย 3-4 พันกล่องต่อเดือน ขณะที่ชาไทยไข่มุกบุกซึ่งมาสานต่อยอดขายของเมนูชานมที่ได้รับความนิยมตลอดไตรมาส 3 ที่ผ่านมาจนมียอดขายกว่า 2.6 หมื่นแก้วต่อเดือน เติบโตถึง 460% จากปกติรายการเครื่องดื่มหวาน 1 รายการจะขายได้เฉลี่ย 3-4 พันแก้วต่อเดือน โดยคาดว่าเมนูชาไทยไข่มุกบุกจะมียอดขายสูง 2.5 หมื่นแก้วขึ้นไปต่อเดือนในไตรมาส 4 นี้ เพราะวางราคาขายไม่สูง ผู้โดยสารสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย

“หลังจากปี 2561 ไทยแอร์เอเชียได้ร่วมกับพันธมิตรอย่างแบรนด์อาฟเตอร์ยูซึ่งมีชื่อเสียงด้านขนมหวานและเบเกอรี่พบว่าได้กระแสตอบรับดี จึงเตรียมต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ในปี 2563 เป็นแบรนด์อาหารคาว 2 แบรนด์ดังจากทั้งเชนร้านอาหารไทยและต่างชาติ ทยอยเปิดตัวในไตรมาส 2 และ 4 ปีหน้า เพื่อสร้างสีสันเมนูอาหารเฉพาะบนเครื่องบิน ช่วยผลักดันยอดขายอาหารกับเครื่องดื่มบนเที่ยวบินปีหน้าของไทยแอร์เอเชียให้เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีนี้”

สำหรับภาพรวมการแข่งขันเสนอขายเมนูอาหารกับเครื่องดื่มบนเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ จะเห็นว่าบางสายการบินได้คิดค้นเมนูใหม่ๆ และมีบ้างที่ร่วมมือกับพันธมิตรร้านอาหารแบรนด์ดังในช่วงพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ แต่ไทยแอร์เอเชียเลือกกลยุทธ์ผนึกพันธมิตรร้านอาหารแบบระยะยาวมากกว่า พร้อมมุ่งแข่งขันกับตัวเองเป็นหลัก ศึกษาความต้องการของผู้โดยสารว่าชอบและกำลังสนใจอาหารกับเครื่องดื่มแบบไหน

“คนส่วนใหญ่คิดว่าอาหารบนเครื่องบินไม่หลากหลาย รสชาติจืดชืด ไม่อร่อย และแพง ไทยแอร์เอเชียจึงหยิบโจทย์นี้มาแก้ เพื่อเปลี่ยนความรู้สึกของคนที่ใช้บริการไทยแอร์เอเชียว่า รสชาติอาหารที่ได้รับบนเครื่องนั้นอร่อยเหมือนกับข้างล่าง และจะมีการเปลี่ยนเมนูหลักทุกไตรมาสเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารเบื่อและสร้างผลตอบรับที่ดีในเชิงยอดขาย โดยกว่า 60-70% ของเที่ยวบินไทยแอร์เอเชียทั้งหมดซึ่งมีราว 370 เที่ยวบินจากทั้งในและระหว่างประเทศเป็นเที่ยวบินระยะสั้น ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องการกินอาหารบนเครื่อง จึงต้องหาเมนูที่สร้างความตื่นเต้นและหาซื้อจากข้างล่างไม่ได้มาเสนอขาย” นางสาวอรอนงค์กล่าว