ธปท.ดึง‘มาร์เก็ตคอนดักท์’คุมแบงก์รัฐ

ธปท.ดึง‘มาร์เก็ตคอนดักท์’คุมแบงก์รัฐ

ธปท.เล็งขยายมาร์เก็ตคอนดักท์ใช้กับแบงก์รัฐ นาโนไฟแนนซ์ และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ สร้างมาตรฐานเดียวกันกับธนาคารพาณิชย์  หลังที่ผ่านมาพบข้อร้องเรียนเพียบ “ออมสิน” พร้อมทำตามมาตรฐาน  เชื่อไม่กระทบการดำเนินงาน เหตุเตรียมพร้อมมากว่า 1 ปี

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.มีแผนขยายหลักเกณฑ์การบริหารจัดการด้านการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (มาร์เก็ตคอนดักท์) ให้ครอบคลุมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจหรือแบงก์รัฐด้วย จากเดิมที่ใช้เฉพาะธนาคารพาณิชย์เท่านั้น โดยธปท.ได้ชี้แจงทำความเข้าใจและสื่อสารกับแบงก์รัฐไปแล้ว ถึงความคาดหวังในการเข้าไปกำกับดูแลในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่จะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อดูแลให้ลูกค้าแบงก์รัฐได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการทางการเงินด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10-26 ก.ค.ที่ผ่านมา ธปท.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น เกี่ยวกับการขยายขอบเขต การใช้หลักเกณฑ์มาร์เก็ตคอนดักท์ไปยังแบงก์รัฐ นาโนไฟแนนซ์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อให้การดูแลลูกค้าครอบคลุมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีข้อร้องเรียนจำนวนมากจากผู้ใช้บริการทางการเงิน

เป้าหมายหลักของมาร์เก็ตคอนดักท์ คือ 1.ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าผู้ให้บริการมุ่งเน้นการให้บริการอย่างเป็นธรรม จริงใจ ไม่เอาเปรียบ 2.ลูกค้าได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและชัดเจน 3.ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นธรรมทั้งด้านราคาและเงื่อนไข 4.ลูกค้าสามารถใช้บริการได้สะดวกและได้รับการดูแลแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม และ5.ผู้ให้บริการช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง

เขากล่าวถึง โครงการคลินิกแก้หนี้ในเฟส 2 ว่าได้รับการตอบรับจากลูกหนี้ค่อนข้างมาก มีลูกหนี้ที่ผ่านเกณฑ์และลงนามปรับโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 3,000 ราย เพิ่มเป็นเท่าตัวจากเฟสแรก โดยมีลูกหนี้ราว 10% หรือ 300 ราย ที่ปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จและออกจากโครงการ   นอกจากนี้ยังมีลูกหนี้จากสหกรณ์ออมทรัพย์ ขอเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ด้วย แต่ไม่สามารถเข้าโครงการได้ เพราะไม่ใช่ลูกหนี้เอ็นพีแอลของธนาคารพาณิชย์และนอนแบงก์

 “ที่ผ่านมามีลูกหนี้จากสหกรณ์ขอเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ด้วย แต่ไม่เข้าข่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด เดิมกลุ่มนี้จะถูกหักเงินจากสหกรณ์ทุกเดือนก่อนหนี้อื่นๆ อยู่แล้ว  อย่างไรก็ตาม มีลูกหนี้บางส่วนที่เข้าโครงการ แล้วเป็นหนี้สหกรณ์ด้วย”

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า กรณีที่ธปท.จะมีการนำมาร์เก็ตคอนดักท์มาใช้กับแบงก์รัฐนั้น  เป็นเรื่องที่ดี เพื่อดูแลผู้ใช้บริการทางการเงินได้รับความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง แม้เกณฑ์จะเข้มขึ้น แต่เชื่อว่า ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร  โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารในระยะข้างหน้า เนื่องจาก ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ดำเนินธุรกิจตามเกณฑ์มาร์เก็ตคอนดักท์ไปแล้ว ทั้งการขาย และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงสุ่มตรวจการให้บริการทางการเงินของพนักงานธนาคารว่าเป็นไปตามมาร์เก็ตคอนดักท์หรือไม่ ดังนั้นเชื่อว่าหากมีการใช้เกณฑ์กับแบงก์รัฐในปี 2563 ธนาคารจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน

“ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับธปท.ไปบ้างแล้ว เกี่ยวกับมาร์เก็ตคอนดักท์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า ธปท.จะให้แบงก์รัฐใช้ในปีหน้า ซึ่งก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาแน่นอน หรือกระทบทำให้ยอดขายต่างๆ ของแบงก์ลดลง เพราะเราทำตามเกณฑ์ไปก่อนหน้าแล้วในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แม้เกณฑ์นี้จะคุมเฉพาะแบงก์พาณิชย์เท่านั้น”