พาณิชย์ดีเดย์วันนี้ จ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว2ชนิด

พาณิชย์ดีเดย์วันนี้ จ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว2ชนิด

พาณิชย์เปิดส่วนต่างจ่ายชาวนาโครงการประกันรายได้ข้าวระบุจ่ายแค่ 2 ชนิดเหตุราคาต่ำกว่าตลาด“ข้าวเปลือกเจ้า2,469 บาทต่อตัน -ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี783บาทต่อตัน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 งวดที่ 1 ประจำวันที่ 15 ต.ค.2562 เพื่อชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสำหรับผู้ที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 16 ต.ค.2562 แล้ว โดยจะมีการจ่ายชดเชยรายได้ให้กับข้าวเปลือก 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 2,469.64 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุมธานีตันละ 783.45 บาท ส่วนอีก 3 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกเหนียว ไม่ชดเชย

สำหรับราคาตลาดอ้างอิงที่นำมาใช้ในการคำนวณเพื่อจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 16,723.09 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 15,651.05 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 7,530.369 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 10,216.55 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 18,926.86 บาท

นายวิชัยกล่าวว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีก 3 ชนิด ที่ไม่ได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้ ต้องบอกว่าเป็นข่าวดี เพราะสามารถขายข้าวได้ราคาดีกว่าราคาประกัน ทำให้ได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย และยังไม่ถูกจำกัดโควตาที่จะได้รับตามที่โครงการกำหนดไว้ อย่างข้าวเปลือกหอมมะลิ กำหนดไว้ 14 ตันต่อครัวเรือน เกินกว่านี้ก็ไม่ได้ แต่ตอนนี้ ราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน ปลูกได้กี่ตัน ก็ขายได้ราคาตลาดทั้งหมด ถือว่ามีรายได้เต็ม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ต.ค.2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะลงพื้นที่ชี้แจงและมอบนโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหลักชัย อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจะคิกออฟการจ่ายเงินประกันรายได้ชาวนาด้วย ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินงวดแรกสำหรับการประกันรายได้ข้าว

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ประกันรายได้ข้าวเปลือกจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ15,000บาท ครัวเรือนละไม่เกิน14ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ14,000บาท ครัวเรือนละ16ตัน ข้าวเปลือกเจ้า10,000บาท ครัวเรือนละ30ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ11,000บาท ครัวเรือนละ25ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ12,000บาท ครัวเรือนละ16ตัน แต่ถ้าเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า1ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด