แอล.พี.เอ็น. ทุ่มงบ 150 ล้านบาท ผุดแคมแปญรีแบรนด์องค์กรครั้ง 2 ในรอบ10ปี ชู“ความพอดี ที่ดีกว่า” หวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มเจนวาย สนองความต้องการพื้นฐาน บ้านในโลกเป็นจริงมากกว่าเพ้อฝัน พร้อมจัดโปรระบายสต็อก ราคาคอนโดถูกกว่าราคาพรีเซล ตั้งเป้าดันยอดขาย
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ทุ่มงบ150 ล้านบาท ออกแคมเปญโฆษณาแบรนด์ดิ้งองค์กรเป็นครั้งที่2ในรอบ 10 ปี โดยผ่านหนังโฆษณา บ้านในฝัน (Dream Home)ภายใต้คอนเซปต์ความพอดี ที่ดีกว่า เพื่อบอกเล่าปรัชญาของความพอดี ในการพัฒนาทุกโครงการ เริ่มตั้งแต่การออกแบบทุกรายละเอียด เพื่อให้สมดุลระหว่างความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย
โดยเน้นตอบสนองความความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภคเพื่อให้ลูกค้าได้ที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ ไม่ใช่บ้านในฝันที่เป็นฝันร้ายของผู้บริโภค เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้สื่อสารออกไปให้ผู้บริโภครับรู้ถึงสิ่งที่ทำและไม่มีข่าวดราม่าลงในโซเซียลมีเดียทำให้แอล.พี.เอ็น. ไม่เป็นที่รู้จักกลุ่มลูกค้าเจนวาย ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่เข้ามาเป็นลูกค้าในอนาคต เพราะนิยมซื้อคอนโดในเมืองตามแนวรถไฟฟ้ามากกว่าซื้อรถยนต์เหมือนกลุ่มเจนเอ็กซ์ เบบี้บูมเมอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นลูกค้าหลัก ส่วนเจนวายมีสัดส่วนอยู่ในโครงการไม่ถึง10%
“ในยุคนี้จำเป็นต้องสื่อสารให้คนได้รับรู้ แทนที่รอให้ลูกค้ามาสัมผัสเอง หนังโฆษณาจะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นบ้านที่มีพื้นฐานจากความเป็นจริงไม่ใช่บ้านในโลกความเพ้อฝัน เพื่อกระตุ้นให้กลับมาสู่โลกความจริง ที่สามารถสัมผัสและรับรู้ได้ จึงเน้นการสื่อสารผ่านโซเซียลมีเดียทุกรูปแบบเพื่อจับกลุ่มเจนวายที่มีอายุ 25-35ปี ที่มีความต้องการในการซื้อสูง ”
นายโอภาส ยังกล่าวถึงสถานการณ์การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ 3 เดือนสุดท้ายในปีนี้ว่า รุนแรงมากเป็นพิเศษ เพราะทุกค่ายต่างนำเสนอแคมเปญโปรโมชั่นราคาออกมาเป็นตัวกระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อ เพื่อระบายสต็อกที่มีอยู่ให้ลดลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แข่งดุเดือดมากจนถึงขั้นยอมขาดทุนกำไร บางโครงการราคาลดลงมากว่า15% ราคาขายใหม่ถูกมากกว่าราคาเปิดตัวโครงการเพื่อให้สามารถปิดโครงการให้ได้ เพราะต้องยอมรับว่า ราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุดในเวลานี้ ”
ปัจจุบันบริษัทมีสต็อกเหลือขายพร้อมโอนอยู่ 4,000 ยูนิต มูลค่า8,000ล้านบาท บริษัทจะนำจะมาจัดแคมเปญจำนวน500 ยูนิต ในราคาต่ำกว่าพรีเซล ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวใน30 ต.ค.นี้ เพื่อระบายสต็อกที่มีอยู่และเพิ่มยอดการรับรู้รายได้ในไตรมาสสี่ คาดว่า สิ้นปียอดขาย11,000 ล้านบาทเท่ากับปีก่อน