'ธนกร' มั่นใจ 'ชิมช้อปใช้' ปชช.ได้ประโยชน์ รัฐมาถูกทาง

'ธนกร' มั่นใจ 'ชิมช้อปใช้' ปชช.ได้ประโยชน์ รัฐมาถูกทาง

"ธนกร" เหน็บ "พิชัย" อิจฉารัฐบาลทำเรื่องดีๆ มั่นใจชิมช้อปใช้ประชาชนได้ประโยชน์ ช่วยพยุงเศรษฐกิจ รัฐมาถูกทาง จนรากหญ้าอาจเปลี่ยนใจ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โจมตีมาตรการชิมช้อปใช้ว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ รัฐบาลหลงทาง พร้อมทั้งเรียกร้องให้                      พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ลาออกจากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจว่า มาตรการ ชิมช้อปใช้ เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่ประเทศได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งเชื่อว่าสามารถจะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจฐานรากขับเคลื่อนไปได้ ที่สำคัญประชาชนทั่วประเทศได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว


“ไม่เข้าใจว่า ทำไมเมื่อรัฐบาลทำโครงการดีๆ ให้ประชาชน ฝ่ายค้านจะออกมาคัดค้านตลอด จะมาอิจฉาอะไรรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินมาถูกทางแล้ว นายพิชัยจึงออกมาโจมตี คงทำใจไม่ได้ที่เห็นรัฐบาลทำอะไรดีๆ กลัวพี่น้องประชาชนจะมารักรัฐบาลมากเกินไป ซึ่งอดีตที่ผ่านมา พรรคของนายพิชัยเองสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากมาย โดยเฉพาะการทุจริตจำนำข้าวที่รัฐบาลนี้ต้องตั้งงบประมาณมาชดใช้หนี้ใช่หรือไม่ นายพิชัยน่าจะกลับตัวกลับใจได้แล้ว สังคมให้อภัย อย่ารับใช้สิ่งที่จะทำลายประเทศต่อไปเลย”


ทั้งนี้ มาตรการชิมช้อปใช้ เป็นมาตรการที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่ได้เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแต่อย่างใด แต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากเงินสนับสนุนของรัฐ 1,000 บาท และเงินที่ผู้ได้รับสิทธิ์เติมเงินเพื่อใช้จ่าย โดยได้รับเงินชดเชยอีกส่วนหนึ่ง ประชาชนมากกว่า 10 ล้านคนได้รับประโยชน์จากการลงทะเบียนเต็ม 10 ล้านราย จะส่งผลให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท ในทางเศรษฐศาสตร์เมื่อมีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค จะเกิด Multiplier Effect ทำให้ผลกระทบรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.5-3.5 เท่า ในการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนภายในประเทศอันเป็นองค์ประกอบหลักของเศรษฐกิจไทยเป็นสำคัญ โดยการบริโภคภาคเอกชนมีสัดส่วน 50% ของ GDPนอกจากนั้น ผู้ได้รับสิทธิ์สามารถใช้จ่ายเงินของตัวเองในร้าน “ชิมช้อปใช้” ได้มากถึง 30,000 บาทต่อคน โดยได้รับเงินชดเชย 15% ของยอดใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก มั่นใจว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าที่ 0.2%