สหรัฐ-จีนกดตลาด

สหรัฐ-จีนกดตลาด

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังจากที่ดัชนีอยู่ในแดนลบในภาคเช้า  และปรับตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค

โดยคาดว่าเป็นแรงรีบาวด์หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาหลายวันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายยังไม่สูงมากนัก คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุน พร้อมกับจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จี่นที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,616.18 จุด (+4.01 จุด) Volume 4.2 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,091.68 ลบ. TFEX Net -11,959 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +628 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 181.97 จุด +0.70% ขานรับรายงานข่าวจีนพร้อมทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ และเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ และคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนนี้ หลังมีรายงานการประชุมในเดือนก.ย.กังวลศก.ชะลอตัว

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว หลังดอกเบี้ยเงินกู้ปรับตัวลง

+สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.

-/+ เฟดเผยรายงานประชุมเดือนก.ย.ชี้กรรมการเฟด

-/+รัฐสภาอังกฤษเตรียมจัดประชุมพิเศษเสาร์ที่ 19 ต.ค.ชี้ชะตา Brexit ก่อนเส้นตาย 31 ต.ค.

-/+ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 4 เซนต์ -0.08% ปิดที่ 52.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4  แต่มีแรงหนุนจากข่าวกองทัพตุรกีเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย          

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.3 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.31 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวผัวผวน หลังมีรายงานข่าวจากสื้อสหรัฐว่า จีนจะทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ ขณะที่สื่อจีนรายงานว่า การเจรจาการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีช่วยยังไม่มีความคืบหน้าในประเด็นสำคัญ  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,620 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%) (TISCO SPF RSP TWPC DIF GPI)
  • ชิมช้อปใช้ (ROBINS BJC MAKRO SPA ERW TNP CPALL)
  • หุ้นเด่นเดือนต.ค. (JUBILE ARROW TNP)

หุ้นรายงานพิเศษ

AWC เข้าเทรดตลาด SET วันนี้

  • บริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักซึ่งก่อให้เกิดกำไรหลัก 12 บริษัท
  • ในระยะ 3-5 ปี ทิศทางผลประกอบการมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆที่ทยอยเปิดให้บริการ โดยคาดว่าภายในปี 2567 ธุรกิจ  Hospitality จะมีโรงแรมเปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 27 โรงแรม ด้วยห้องพักรวม 8,506 ห้อง จากปัจจุบัน 14 แห่ง มีห้องพักจำนวน 4,421 ห้อง ส่วนธุรกิจ Retail and Commercial Building  จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวม 686,075 ตารางเมตร รวมทั้งสิ้น 15 โครงการ
  • AWC มีทุนจดทะเบียน 32,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 24,000 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 8,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 6,957 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน 1,043 ล้านหุ้น ราคาไอพีโอที่ 6.00 บาท คิดเป็น PE ที่ระดับราว 200 เท่า และ P/BV ที่ระดับ 5 เท่า
  • AWC จะเข้าคำนวณ SET50 โดยอัตโนมัติเนื่องจากมี Market Cap. เกิน 1% ของมูลค่าตลาด (เริ่มเทรด 10 ต.ต. เข้าSET50 11 ต.ค. ) มีหุ้น Greenshoe จำนวนไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น ซึ่งนับเป็นกลไกพยุงราคาหุ้นไม่ให้ต่ำกว่าราคา IPO ในช่วง 30 วันแรกหลังเข้าเทรด

หุ้นมีข่าว   

(+) SPALI (Bloomberg Consensus 23.83 บาท)   ลุยศึกษาลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในฟิลิปปินส์ร่วมกับพันธมิตร พร้อมเพิ่มเงินลงทุนโครงการอสังหาฯ ใหม่ในออสเตรเลีย เชื่อได้รับผลตอบแทนสูง ส่วนตลาดอสังหาฯ ไทยในปีนี้คาดการณ์ยอดขายอยู่ที่ 100,000 ยูนิต (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SPA (Bloomberg Consensus 14.93 บาท) คาดผลงานไตรมาส 3/62 สวย รับแรงหนุนขยายสาขาใหม่-ลูกค้าเพิ่มขึ้น พร้อมส่งซิกผลงานไตรมาส 4/62 พีกสุด เหตุเข้าไฮซีซั่น-นักท่องเที่ยวจีนฟื้น-ร่วมชิมช้อปใช้ นอกจากนี้ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 20% แตะ 1,400 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SCC (Bloomberg Consensus 444.86 บาท) แจ้งปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท KIA ที่ดำเนินธุรกิจเซรามิกในอินโดนีเซีย หวังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม รวมถึงปรับโครงสร้างการถือหุ้น ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และปรับโครงสร้างการผลิต (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) NER (ราคาเหมาะสม 3.10 บาท)  ลุยโรงไฟฟ้าชุมชน หลัง "รัฐมนตรีพลังงาน" เร่งเดินหน้าโครงการต้นแบบ Quick Win 10-20 แห่ง ต้นปีหน้า พร้อมตั้งเป้าครึ่งปีแตะ 250 แห่ง ด้าน "ชูวิทย์" ชี้มี 2 โครงการ รวม 4 MW รองรับส่งเสริมปลูกหญ้าเนเปียร์ เข้าเกณฑ์หวังอัตรารับซื้อไฟฟ้า 4.50-5.50 บาท ส่วนผลประกอบการยังเติบโตดีคงเป้ารายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TASCO (Bloomberg Consensus 24.44 บาท) รับอานิสงส์สามเด้ง ราคาเฉลี่ยยางมะตอยทรงตัวระดับสูง IMO กดต้นทุนต่ำ แถมยอดขายสินค้าพรีเมียมในประเทศฮอต ดันมาร์จิ้นพุ่งแรง ผู้บริหารเล็งปัดฝุ่นแผนเพิ่มกำลังการผลิตในมาเลเซียเท่าตัว รองรับความต้องการในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SONIC (Bloomberg Consensus - บาท) เตรียมรับรู้รายได้นิคมปิ่นทองเข้าเต็มปี หลังดีลกับลูกค้า EEC ได้แล้ว คาดเปิดให้บริการในปี 2563 เชื่อหนุนกำไรพุ่งขึ้น แย้มอยู่ระหว่างศึกษาเข้าซื้อกิจการโลจิสติกส์ในต่างประเทศ โฟกัสฮ่องกง และสิงคโปร์ เบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนไม่เกิน 200-300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)